“พล.ต.อ.ชัยยะ” เลขา ปปง. มือปราบตระกูล “ชินวัตร”

ชื่อของ “พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล” เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อาจเปรียบได้ว่า ยิ่งกว่าเส้นขนาน-เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “ตระกูลชินวัตร” มาเกิน 1 ทศวรรษ

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจพิเศษ ม.44 ตั้งให้ “พล.ต.อ.ชัยยะ” ข้ามห้วยจากที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 ตำแหน่งเทียบเท่ารอง ผบ.ตร. มานั่งเก้าอี้เลขา ปปง. เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559

หนึ่งในภาระร้อน วาระเร่งด่วนในมือ “พล.ต.อ.ชัยยะ” หลังเข้ามานั่งเก้าอี้เลขา ปปง.ก็คือ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของลูกชายคนโต ทักษิณ ชินวัตร ชื่อ “พานทองแท้ ชินวัตร” จากคดีทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ให้แก่กลุ่มกฤษดามหานคร เนื่องจากปรากฏชื่อเป็นผู้รับเช็คจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อดีตผู้บริหารเครือกฤษดามหานคร

ล่าสุด ที่ประชุมพนักงานสอบสวนของ ปปง.มีมติร้องทุกข์กล่าวโทษ “พานทองแท้” ในกรณีดังกล่าว

หลังก่อนหน้านี้ “พล.ต.อ.ชัยยะ” ครั้งยังเป็นที่ปรึกษา สบ.10 ได้รับการมอบหมายให้เป็นประธานดำเนินการถอดยศของ “ทักษิณ” จาก “พ.ต.ท.ทักษิณ” เหลือแค่ “นายทักษิณ” มาแล้วในปี 2558

ย้อนลงลึกไปกว่านั้น ในช่วงการเลือกตั้ง 2550 เมื่อครั้ง “พล.ต.อ.ชัยยะ” มียศ “พลตำรวจตรี” ในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล เข้ารับหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายสืบสวนของ กกต.คุมฝ่ายสืบสวนของกรรมการการเลือกตั้ง 700 คน

หลังการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชน (พปช.) ชนะการเลือกตั้งแต่กลับได้รับแจกใบเหลืองและใบแดงหลายใบ และหนึ่งในใบแดงที่พรรคพลังประชาชนได้รับคือ ใบแดงของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” กรรมการบริหารพรรค

เมื่อพรรคพลังประชาชนในคราบร่างอวตารของพรรคไทยรักไทย ชนะเลือกตั้ง 23 ธ.ค. 2550 กลับมาเป็นรัฐบาล พล.ต.อ.ชัยยะก็ถูกเตะโด่งไปทำงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา ไม่มีกำหนด

แต่แล้วฤทธิ์ของ “ใบแดงยงยุทธ” ก็สำแดงผล ทำให้พลังประชาชนต้องหมดอำนาจลงเพราะถูกยุบพรรค เข้าสู่ยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ “พล.ต.อ.ชัยยะ” จึงกลับเข้าสู่ไลน์อำนาจสีกากีอีกครั้ง

ก่อนมาเป็นเลขาฯ ปปง.ด้วยคำสั่งพิเศษของ คสช.หลังทำผลงานถอดยศของ “ทักษิณ”

และล่าสุดส่งข้อมูลเส้นทางการเงินของ “พานทองแท้” ลูกชาย “ทักษิณ” ไปให้ดีเอสไอลงดาบ ?