“ปิยบุตร” แถลงปิดคดีเงินกู้ ยุบพรรคฝ่ายค้านก่อนซักฟอก คนทั้งประเทศจะฉุกคิด

ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงปิดคดีเงินกู้ 191.2 ล้านบาท ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 21 ก.พ.นี้ว่า อนค.ไม่มีโอกาสแถลงปิดคดีในศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงต้องใช้พื้นที่แห่งนี้แถลงปิดคดีแทน เพื่อทำให้สาธารณชนได้รับทราบการต่อสู้คดีทั้งหมด มี 5 ประเด็น 1.ทำไม อนค.ถึงกู้เงินของนายธนาธร เราไปจดจัดตั้ง 15 มี.ค.2561 รอจนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จดทะเบียนให้การรับรองเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกฎหมายวันที่ 3 ต.ค.61 และได้เปิดรับสมาชิกพรรค 6 ต.ค.2561 และเริ่มต้นขายสินค้าออนไลน์ ระดมทุน บริจาค

ย้อนเหตุผลทำไมต้องกู้

เพราะเราทราบดีว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 กำหนดไว้หลายเรื่อง ถ้าทำไม่ครบจะส่งเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ อาทิ ต้องตั้งสาขาพรรคอย่างน้อย 4 สาขา ต้องมีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ซึ่งสิ่งต่างๆ ต้องใช้เงิน ไม่ได้มาฟรีๆ แต่ในท้ายที่สุด กกต.ทำหนังสือแจ้งมา ขายสินค้าออนไลน์ไม่ได้ ต้องขายหน้าร้านเท่านั้น เราเริ่มรับบริจาคมีคนมาต่อแถวรับบริจาค แต่ กกต.ติดต่อมาว่า ต้องรับบริจาคจากกรรมการบริหารพรรค คนละ 10 ล้านเท่านั้น ห้ามรับบริจาคจากบุคคลทั่วไป และจัดกิจกรรมระดมทุนไม่ได้

นายปิยบุตรกล่าวว่า ดังนั้น ถ้าเป็นพรรคเก่ามีเงินก้นถุงติดอยู่ แต่ถ้าพรรคใหม่ทำอย่างไร เพราะมีเวลาหาเงินเข้าพรรคเดือนเศษๆ เท่านั้น พรรคอนาคตใหม่จึงตัดสินใจใช้วิธีกู้เงิน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ เกิดขึ้นมาไล่เลี่ยกับ อนค. ไม่เห็นทำกิจกรรมใดๆ และเลือกจัดโต๊ะจีนระดมทุน 19 ธ.ค.2561 มีบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งซื้อโต๊ะจีนซอยย่อยเป็นบริษัทเล็กๆ 3 บริษัท เพื่อไม่ให้เกินบริษัทละ 10 ล้าน ได้เงินกว่า 600 ล้าน ภายหลังไปแจ้ง กกต.เหลือ 300 ล้าน ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทย จัดโต๊ะละ 1 ล้านได้มา 240 ล้านบาท แต่พรรคอนาคตใหม่เลือกกู้เงินจากนายธนาธร นี่คือทางเลือกที่แตกต่างกัน

“การจัดโต๊ะจีนระดมทุน ถ้าเปิดรายชื่อมาดูคนที่ซื้อโต๊ะ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น อนค.ไม่ต้องการรับจากทุนผูกขาด เพราะมีนโยบายทลายทุนผูกขาด มีบริษัทใหญ่ขอบริจาคหลายที่แต่เราขอไม่รับ แต่กฎหมายบังคับให้เราทำหลายอย่าง ทุกอย่างใช้เงินใช้ทองทั้งสิ้น ไม่มีอะไรฟรี เรารู้แล้วว่าต้องใช้เงิน แต่กฎหมายห้ามนู่นห้ามนี่เต็มไปหมด ท้ายที่สุดมีทางเลือกเดียวคือขอรับเงินกู้ หน้าตา อนค.ไม่มีปัญญาจัดโต๊ะจีนระดมทุนได้ 600 กว่าล้าน หรือ 240 ล้าน เมื่อเรากู้เงินต้องการปกปิดเป็นความลับหรือไม่ ชัดเจนไม่ต้องการปกปิด หัวหน้าพรรคไปที่ไหนก็พูด นักร้องทั้งหลายรู้จากปากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพราะนายธนาธรบอกเองต้องการเปิดเผยให้เห็น และจะใช้คืนภายใต้สัญญาเงินกู้” นายปิยบุตรกล่าว

แฉ 20 พรรค มีทั้งกู้ ทั้งยืม

นายปิยบุตร กล่าวว่า ข้อ 2.พรรคการเมืองในประเทศไทยกู้เงินได้ ตามหลักกฎหมายมหาชน ซึ่งเรียกร้องบรรดาองค์กรหน่วยงานของรัฐไม่มีกฎหมายไม่มีอำนาจ เพราะองค์กรของรัฐเกิดได้เพราะกฎหมาย ส่วนหลักกฎหมายเอกชน บอกว่า ปัจเจกบุคคลทั้งหลายมีเสรีภาพกระทำการใดๆ ก็ได้ตราบใดที่กฎหมายไม่ได้ห้าม ดังนั้น ถ้าเป็นหน่วยงานของรัฐทำอะไรไม่ได้เลยถ้ากฎหมายไม่ให้ทำ พรรคการมืองเป็นนิติบุคคลเอกชน ที่รวมตัวกันมาก่อตั้งพรรคการเมืองแล้วไปขอตั้งเป็นพรรคหรือบริษัท ชัดเจนว่าพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเอกชนไม่ใช่หน่วยงานรัฐ

มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันตรงกันหมดพรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลเอกชน ซึ่ง รศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ก็ยืนยันชัดเจนว่าพรรคการเมืองเป็น นิติบุคคลเอกชน ดังนั้น ต้องเข้าหลักว่าทำได้ทุกอย่างเว้นแต่กฎหมายห้ามไม่ให้ทำ ไปสำรวจกฎหมายพรรคการเมืองทั้งฉบับไม่ได้ห้ามเรื่องการกู้เงิน ขณะที่สำนักกิจการพรรคการเมือง ของ กกต.แจกคู่มือของพรรคการเมืองเรื่องเขียนฐานความผิด อะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ ตนเปิดทุกหน้าไม่มีสักบรรทัดเขียนว่าห้ามกู้เงิน ถ้ามีให้เห็นชัดๆ ก็คงไม่กู้ ยิ่งกว่านั้นโทษถึงการยุบพรรคตัดสิทธิต้องตีความเคร่งครัด จะเอามาตราต่างๆ มาตีความว่าทำผิดมาตรานั้นมาตรานี้ไม่ได้ เรายืนยันชัดเจนนั่งดูหมดแล้วทั้งตัวรัฐธรรมนูญ คู่มือที่ กกต.แจกไม่มีตรงไหนเขียนว่าห้ามกู้เงิน

“ส่งงบการเงินของพรรคการเมืองปี ธ.ค.61 ที่เปิดเผย มีอยู่ 16 พรรค มีเงินยืม เงินทดรองจ่าย ยืมจากหัวหน้าพรรค ยอดเงินแตกต่างกันไป ขณะเดียวกัน 4 พรรคกู้ยืมเงิน ชาติพัฒนา พลังท้องถิ่นไทย กำหนดให้ชำระคืนเมื่อเจ้าหนี้ทวงถามถ้าเจ้าหนี้ไม่ทวงไม่ต้องคืน พรรคพลังประชาชน รวมพลังประชาชาติไทย พรรคเมืองไทยของเรา ชาติไทยพัฒนาเป็นเงินทดรองจ่าย ทั้งหมดอยู่ในความหมายนิติกรรมที่เรียกว่ายืมทั้งสิ้น ประเทศไทยกู้เงินกันมาแล้วกว่า 20 พรรคในกฎหมายปัจจุบัน ดังนั้น ระบบกฎหมายประเทศไทยไม่ได้ห้ามการกู้เงิน ตามกฎหมายมีพรรคกู้ยืม กฎหมายต่างประเทศให้กู้เงินกันได้ ถ้าบอกว่าวันนี้ห้ามกู้เงิน ต่อไปก็ไปแก้กฎหมายว่าห้ามกู้เงิน หรือ กู้เงินมีข้อจำกัดอะไรบ้าง หรือ อนาคตมองว่า เพื่อความแฟร์ กกต.ตั้งกองทุนให้พรรคการเมืองกู้เงิน แล้วเมื่อได้เงินจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองก็ค่อยเอาไปคืน ทั้งหมดคือเรื่องที่ควรศึกษา แต่ ณ วันนี้ไม่มีข้อห้ามเรื่องการกู้เงิน”

ไม่ใช่บริจาค เพราะใช้คืนธนาธรแล้ว 70 ล้าน

นายปิยบุตร กล่าวว่า 3.เงินกู้ไม่ใช่รายได้ ไม่ใช่เงินบริจาค ไม่ใช่ประโยชน์อื่นใด แต่เป็นหนี้สิน ทั้งนี้ ตามหลักการบัญชีเขียนไว้ชัดว่า เงินกู้ เงินยืมจะไปวางในหมวดหนี้สิน งบการเงินแต่ละพรรคเวลาแสดงต่อ กกต.เงินกู้หรือเงินยืมจัดในส่วนหนี้สิน ไม่มีใครบ้าไปจัดในหมวดรายได้ สิ่งที่เรามีเงินมาจากการกู้เงินและเป็นหนี้สินถึงเวลาต้องใช้คืน ต่อให้ กกต.ตีความให้รับความผิดตามมาตรา 62 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ก็คือโทษปรับเท่านั้น

“เงินกู้ไม่ใช่เงินบริจาค นายธนาธรประกาศชัดว่าจะทวงคืนทุกบาททุกสตางค์แล้วยังทำแคมเปญชัดเจน ช่วยกันระดมทุน ช่วยกันบริจาค สมัครสมาชิกพรรค ให้มีเงินเข้ามาแล้ว 70 ล้านบาทไปใช้หนี้ แล้วอย่างนี้จะเป็นเงินบริจาคได้อย่างไร และใช้หนี้ไปแล้วบางส่วน มีเช็คเรียบร้อย จึงไม่มีทางเข้าข่ายเงินบริจาคได้เลย ชัดยิ่งกว่าชัด ถ้าเปรียบเทียบกับพรรคอื่น สัญญาไม่มี ดอกเบี้ยร้อยละสอง เกิดการชำระเมื่อเจ้าหนี้ทวง ข้อเท็จจริงแบบนี้เข้าข่ายประโยชน์อื่นใด หรือเงินบริจาคมากกว่า ด้วยความนิยมของพรรค เรามั่นใจคืนนายธนาธรได้แน่นอน

ชี้ศาลเคยยกคำร้อง เพราะ กกต. ข้ามขั้นตอน

นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ข้อ 4.กระบวนการใน กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ในชั้น 2 คณะอนุกรรมการมีการเรียกไปเป็นพยานแต่ยกคำร้อง ซึ่งตามกฎหมาย กกต.ต้องยุติเรื่องแต่กลับเดินหน้าต่อไป ส่วนความผิดตามมาตรา 72 อยู่ดีๆ กกต.มาคิดออกเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2562 แล้ว 11 ธ.ค.2561 กกต.มีมติ 5 ต่อ 2 มีมติยุบพรรค เพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์อยู่ดีๆ ความผิดฐานมาตรา 72 โผล่มาได้อย่างไรแล้วทำไมใช้เวลา 2 สัปดาห์ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้มีมติยุบพรรค

ผมไม่รู้เลยแม้แต่น้อย รู้พร้อมกับประชาชนและสื่อมวลชน 11 ธ.ค.2562 จะริเริ่มยุบพรรค ไม่เคยบอกอนาคตใหม่ หลักประกันการต่อสู้ในชั้น กกต.อยู่ตรงไหน อย่าลืมว่า กกต.เป็นองค์กรอิสระไม่ใช่นักร้องที่จะหยิบบัตรสนเท่ห์ ส่งศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ องค์กรอิสระมีระเบียบข้อบังคับในการพิจารณาทั้งหมด กับอนาคตใหม่ทำไมไม่ใช่ ไม่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่เคยถูกกล่าวหา อยู่ดีๆ ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ทำไมต้องรีบกันขนาดนั้น นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยที่ กกต.ทำข้ามขั้นตอน ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง แสดงว่าขั้นตอน กกต.เป็นสาระสำคัญ ดังนั้น กระบวนการใน กกต.จึงไม่ชอบ

ศาลไม่มีอำนาจยุบพรรค

นายปิยบุตรกล่าวว่า ข้อ 5.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจแค่ไหนอยู่ที่ตัวรัฐธรรมนูญจะเป็นคนกำหนด ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (3) บัญญัติว่า หน้าที่และอำนาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่มีตรงไหนที่ศาลมีอำนาจยุบพรรค อำนาจการยุบพรรคเกิดใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 แสดงให้เห็นว่า มาตรา 92 ขัดกับรัฐธรรมนูญ 210 พรรคได้สู้คดีไปแล้ว ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ยุบพรรคใดไม่ได้เลย แม้แต่พรรคไทยรักษาชาติ

ส่วนบทกำหนดโทษในมาตรา 124 และมาตรา 125 ก็ไม่มีโทษการยุบพรรคอยู่เลย ดังนั้น กรณีที่มีข่าวว่าจะไม่ยุบพรรค แต่จะตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค คำตอบคือความผิดตามมาตรา 66 กกต.จะต้องเริ่มที่ศาลอาญาระบบปกติ และไป 3 ศาลแล้วค่อยจบ เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยว มาตรา 66 ไม่เกี่ยวและศาลรัฐธรรมนูญจะมาตีขลุมยุบพรรคไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของศาลอื่น

“ส่วนการใช้มาตรา 72 คือเงินที่เอามาเข้าพรรคเป็นเงินสกปรก เงินสีเทา เป็นเงินผิดกฎหมายแล้วมาใช้ในพรรค คำถามคือ เงินกู้มันผิดกฎหมายตรงไหน ไม่ได้เปิดซ่องเปิดบ่อน ขายหวยใต้ดิน คอร์รัปชั่น ดังนั้น การใช้มาตรา 72 คนละช่องทาง แต่มาตรา 72 เป็นช่องให้ยุบพรรคได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่มีอำนาจยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค มาตรา 66 เป็นคดีอาญา และ อนาคตกู้เงินจริง ไม่ใช่บริจาค มาตรา 72 ไม่เข้าองค์ประกอบการผิด กกต.จับยัดมาในนาทีสุดท้าย ไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา ไม่มีโอกาสต่อสู้ ดังนั้น อนาคตใหม่ไม่มีความผิด ศาลรับธรรมนูญต้องยกคำร้อง”

คนทั้งประเทศจะฉุกคิด

นายปิยบุตรกล่าวว่า “ถ้าหากศาลยุบพรรค จะเป็นปรากฏการณ์ที่ยุบพรรคฝ่ายค้านและยุบก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ 3 วัน พูดให้ตาย คนทั้งประเทศฉุกคิดได้แน่นอน คนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่ายุบพรรคแล้วเกิดผลอะไรตามมา นอกจากนี้ คือการทำลายความหวังของคนจำนวนมาก ตั้งพรรค ต.ค.61 เข้าขวบปีที่ 3 ปฏิเสธไม่ได้เราได้เริ่มต้นสร้างความหวังให้กับสังคมไทย แล้วถ้ายุบพรรคขึ้นไม่ใช่แค่ตัดสิทธิธนาธร และผม แต่เป็นการยุบความหวังของคนไทยจำนวนมาก ทุบเข้าไปที่หัวใจของคนที่มีความหวังหลังจากสิ้นหวังไปนาน ทุบที่หัวใจคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นการเมืองเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม ปิดกั้นพื้นที่การแสดงออกคนกลุ่มหนึ่งที่ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมืองที่ต้องการให้ประเทศพ้นไปจากวงจรรัฐประหาร”

พัฒนาประชาธิปไตยกำลังเดินไปตามครรลอง อย่าใช้นิติสงครามมาใช้ไม่เป็นคุณต่อประชาธิปไตย จะตอกลิ่มความขัดแย้งไปเรื่อยๆ เปิดพื้นที่ให้อนาคตใหม่ทำหน้าที่ต่อไปในสภา ให้พรรคการเมืองใหม่ทำงานแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมา ฝากถามไปยัง กกต. 7 คน ในฐานะผู้ร้อง ตื่นเช้ามาในแต่ละวันส่องกระจกแล้วถามตัวเองดังๆ ถามจริงๆ ว่าต้องการยุบพรรคอนาคตใหม่คอนเพราะเป็นพรรคอนาคตใช่หรือไม่ ต้องการตัดสิทธิเพราะไม่ต้องการให้นายธนาธร และนายปิยบุตรมีบทบาทในสภาใช่หรือไม่

นัดชาวอนาคตใหม่ฟังคำวินิจฉัย

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ พรรคจะนัด ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้สนับสนุนของพรรคมาร่วมฟังคำวินิจฉัยพร้อมกันในเวลา 15.00 น. ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ และจะเปิดทำการขายสินค้าของพรรค รับบริจาคและเปิดรับสมัครสมาชิกพรรค เพื่อให้เห็นกันไปว่าพรรคที่กำลังโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กลับมีผู้มาสนับสนุนจำนวนมาก ท้ายที่สุดแล้ว หนังยุบพรรคเรื่องนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะพรรคอนาคตใหม่จะไม่หายไป ธนาธร และปิยบุตรจะไม่หายไป แต่จะเห็นว่าพวกเราโลดแล่นมากกว่าเดิม และ ส.ส.ของพรรคจะไม่เติมให้กับรัฐบาล

 

ไทม์ไลน์คดีเงินกู้ 191.2 ล้าน ธนาธร - อนาคตใหม่

15 พ.ค.2562 “ธนาธร” ได้รับเชิญจากสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ในประเด็น “ที่มาและอนาคตของ พรรคอนาคตใหม่” พร้อมกล่าวถึงการใช้จ่ายเงินของพรรคตอนหนึ่งว่า

“ขอเล่าให้ฟังว่า การเงินของพรรคนี้เป็นอย่างไร ผมให้พรรคกู้เงิน 110 ล้าน ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งรอบนี้ พรรคไม่สามารถระดมทุนได้ทันเวลาสำหรับการหาเสียง อย่างที่ผมบอกไปว่าพรรคเพิ่งมีตัวตนในทางกฎหมายเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะสามารถระดมเงินได้ทันการหาเสียงเลือกตั้ง”

20 พ.ค.2562 “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นการกระทำที่ขัดหรือฝ่าฝืน มาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

เพราะตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ระบุถึงรายได้พรรคการเมือง เงินทุนประเดิมของพรรค เงินค่าธรรมเนียมและคำบำรุงพรรค เงินจากการจำหน่ายสินค้าและบริการของพรรค เงินที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค เงินที่ได้จากการรับบริจาค เงินอุดหนุนจากกองทุนพรรคการเมือง ไม่บัญญัติเรื่องการกู้เงิน

20 ก.ย.2562 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “ธนาธร” ในฐานะ ส.ส. โดยแจ้งว่าให้พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมจำนวน 191,200,000 บาท

23 ก.ย. 2562 “ศรีสุวรรณ” ได้ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้ตรวจสัญญากู้ยืมเงินระหว่างนายธนาธร กับพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาท และขอให้เอาผิดกับนายธนาธร และกรรมการบริหารพรรค ตามมาตรา 66 วรรคสอง ประกอบมาตรา 125 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 โทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค 5 ปี และให้เงินทรัพย์สินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทตกเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง

11 ธ.ค. 2562 กกต. มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง ให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ มองว่าเป็นการกระทำฝ่าฝืน มาตรา 72 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงเสนอให้ยุบพรรคตามมาตรา 92 ในกฎหมายเดียวกัน

25 ธ.ค. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีรับคำร้องที่ กกต.

10 ม.ค. 2563 “ปิยบุตร” ออกมาเปิดเผยว่าอนุกรรมการไต่สวนของ กกต.ถึง 2 ชุด มีการยกคำร้อง แต่ กกต.ยังเดินหน้าต่อ

27 ม.ค. 2563 ทีมทนายความ ยื่นพยานเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ

5 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารผลการพิจารณานัดวินิจฉัยคดีเงินกู้ 191.2 ล้าน

18 ก.พ. 2563 “ปิยบุตร” แถลงปิดคดีนอกศาล ชี้ 5 ข้อต่อสู้ กระบวนการ กกต.ไม่ชอบ – ศาลไม่มีอำนาจยุบพรรค


21 ก.พ. 2563 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัย