วอร์รูมประชารัฐ เปิด “เพจเฉพาะกิจ” โต้ซักฟอกในโลกโซเชียล

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์-พวก รวม 6 รัฐมนตรี แม้ระดับความมันส์จะลดกรีความเข้มเข้นจาก 5 ดาว เหลือ 3 ดาว – เป็นเพียง “พิธีกรรม” คั่นเวลาก่อนปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์2/1

หลังจากพรรคอนาคตใหม่ “ถูกยุบ” เสียงรัฐบาลเกินครึ่ง-ทะลุ 263 เสียง

ทว่า พรรคพลังประชารัฐยังเดินหน้า “อุ่นเครื่อง” ด้วยการยกทีมพรรคแกนนำ-พรรคร่วมรัฐบาลเปิดห้องสัมมนาริมทะเล-กลางเมืองพัทยา “เก็งข้อสอบ” พร้อมกับซักซ้อมวอร์รูม-เขียนบททีมองครักษ์พิทักษ์

โดยแบ่งทีมวอร์รูมแบ่งออกเป็น 3 ทีม ทีมที่ 1 “ทีมองครักษ์นอกสภา” – ส.ส.ต. (ส.ส.สอบตก) จะถูก “ผ่าครึ่ง” ออกเป็น 2 ชุด 1 ชุด นอกสภา-พรรคพลังประชารัฐ อีก 1 ชุด ประจำการที่สภา คอย “มอนิเตอร์” การอภิปราย-เตรียมข้อมูล

มี “จำลอง ครุฑขุนทด” เป็น “ตัวประสาน” เพื่อเก็บ-ส่งข้อมูล เสิร์ฟไปยัง ทีม อ.ส.ว. เพื่อตอบโต้ฝ่ายค้าน

โดยพลังประชารัฐจะรุก 3 แพลตฟอร์ม ทั้งในสภา-นอกสภาและ “ออนไลน์” โดยจะตั้ง “เพจ” ขึ้นมาโต้ตอบ-โต้กลับฝ่ายค้าน และการ “ซักฟอกนอกสภา” ของ “คณะอนาคตใหม่”

ในสภา 6 รัฐมนตรี จะ“รับ-ส่ง” ข้อมูล จาก “วอร์รูมตึกไทยคู่ฟ้า” ที่ประกอบไปด้วยข้าราชการจากทุกกระทรวง เพื่อชี้แจงบนเวทีซักฟอกที่มีประชาชนติดตามทางหน้าจอทีวี

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ขณะที่นอกสภา-ข้างเวทีอภิปราย กรณีรัฐมนตรีชี้แจงไม่ทัน-ข้อมูลไม่ครบ จะให้รัฐมนตรี-ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล “ตั้งโต๊ะแถลง” แจงข้อมูลให้กับ “ทัพนักข่าว” ถนนข้อมูลข่าวสารทุกสายมุ่งเดินสู่สภาให้ “ครบทุกประเด็น” เพื่อ ‘ชิงพื้นที่” สื่อกระแสหลัก-แสกระแสรอง

สำหรับสมรภูมิโซเชียลมีเดีย ใช้ “เพจเฉพาะกิจ” ตอบโต้ฝ่ายค้านผ่าน “โลกออนไลน์”

“ทศพล เพ็งส้ม” มือกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ-ทีมองครักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าการที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี “ลงมาเล่นเอง” จะทำให้รัฐบาลผ่านศึกซักฟอกไปได้อย่างราบรื่น

“วิษณุ เครืองาม”

ประกอบกับพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ทำให้ไม่มี “คู่ชก” ที่ “สมเนื้อสมเนื้อ”

โดยเฉพาะการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปีของ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ปิดฉาก “ดาวสภา” ผู้ใช้ “นิติคำศัพท์” เรียกเสียงเฮจาก “กองเชียร์” หักล้าง “อภินิหารทางกฎหมาย” ได้อย่างออกรส

โดยทีมองครักษ์จะแก้เกม-เปลี่ยนเทคติก ไม่ใช้โวหาร-วาทะตกยุค เช่น คำว่า “ทุจริตเชิงนโยบาย” จากโครงการรับจำนำข้าว หรือ จากการออกกฎหมาย “นิรโทษกรรมเหมาเข่ง”

ดอน ปรมัตถ์วินัย

แต่จะผลิต “คำใหม่” เจาะกลุ่มชนชั้นกลาง “คนทำงานออฟฟิศ” ที่สนใจการเมืองให้ไถโทรศัพท์มือถือแล้ว “สะดุดตา” เรียกยอดไลก์-ยอดวิว-ยอดแชร์ โดยให้ไปเรียนเคล็ดวิชาจาก “หมอวรงค์” เป็น “ต้นแบบ” ในการบัญญัติศัพท์ใหม่ เช่น “ลัทธิชังชาติ”

อย่างไรก็ตาม “อดีตศิษย์เก่าประชาธิปัตย์” ไม่กังวลเกมซักฟอกในสภา แต่กังวล “เสียงพรรคร่วม” ที่ “ควบคุมไม่ได้” จึงควร “ซาวด์เสียง” พรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้จะเชื่อว่า 6 รัฐมนตรีตอบข้อกังขาได้ แต่หลังไมค์ “ขอคิดดูก่อน”

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า

“ประเด็นอภิปรายไม่ใช่เรื่องทุจริต แต่เกี่ยวกับการกระทำของตัวบุคคล ประชาธิปัตย์เอาไง พรรคร่วม Ok กับรัฐมนตรีคนไหนบ้าง ส่วนภูมิใจไทยไม่แตกแถวอยู่แล้ว ขณะที่พลังประชารัฐไหลตามน้ำ คนสั่งคนเดียวจบ”

เช่นเดียวกับ “พรรคจิ๋ว” ที่ป่วนจ้องป่วน-โกงเสียงโหวตไว้วางใจ “รัฐมนตรีสีเทา” ที่ไม่การันตรีว่า “พรรคเล็ก” จะยกมือโหวตให้ 6 รัฐมนตรีเท่าหมด

“แล้วแต่อารมณ์ ต้องดูข้อมูลก่อน สมมุติว่าตัวรัฐมนตรีทำผิดจริง ๆ ใครจะไปลงให้ ถ้ามันชัดเจน ดำเมี่ยมคงให้ไม่ได้ แม้กระทั่งเทา ๆ ก็ให้ไม่ได้ ถ้าตั้งใจทุจริต ชาติหน้ายกให้”เต้-มงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์” หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์

ขณะที่ “เสี่ยโต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” ส.ส.เขต 1 ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย 1 เดียวของ “ค่ายสีน้ำเงิน” ที่ “โหวตสวน” มติพรรค “งดออกเสียง” สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี บอกว่า

การลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจครั้งนี้ “ไม่ใช่การไถ่บาป” เพราะรัฐบาลชุดนี้ยังไม่ได้ใช้งบประมาณปี 2563 ซึ่งเป็นงบประมาณใหม่-ไม่สามารถสรุปว่ารัฐบาลนี้ทุจริต