การเมือง

“ทักษิณ” แชร์แก้โควิด จากลอนดอน “ต้องรีบคลายล็อกดาวน์”

ขอบคุณภาพจาก BBC ไทย

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 เว็บไซด์ “บีบีซีไทย” เผยแพร่บทสัมภาษณ์ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี

หลังปรากฏภาพแปะที่ขวดเจลล้างมือ 1 แสนขวด ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนำไปแจกให้กับประชาชนช่วงโควิด – 19 ระบาด

และมีชื่อปรากฏเป็นเจ้าภาพงานศพ ของเหยื่อที่เสียชีวิตเพราะได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19

ในฐานะอดีตนายกฯ ผู้เคยฝ่าฟันการต่อสู้กับโรคระบาดทั้ง โรคซาร์ – ไข้หวัดนก ในช่วงที่พรรคไทยรักไทยเรืองอำนาจ

“ทักษิณ” แชร์ประสบการณ์ การบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤต ผ่านบทสัมภาษณ์กับ “บีบีซีไทย” ณ บ้านพักในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยบอกว่า ถ้าเขามีอำนาจบริหารประเทศ เขาจะคลายล็อกดาวน์ทันที เพราะ…

“100 ปีที่ผ่านมา เรายังไม่ได้เรียนรู้เรื่องการระบาดทั่วไป หรือ การระบาดใหญ่เลย ถ้าเรียนรู้มากกว่านี้คงไม่ใช้วิธีของ 100 ปีที่แล้ว เพราะ 100 ปีที่แล้ว เศรษฐกิจเล็ก ปิดก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้เศรษฐกิจมันใหญ่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจมันหนัก ในครัวเรือน กับประชาชน และประเทศ และระดับทั้งโลก มันหนักไปหมด เพราะเรากำลังแลกกับสิ่งที่เรารู้ยังไม่จริง”

“วันนี้ต้องรีบคลายเรื่องล็อกดาวน์ แล้วเน้นความรู้ให้กับประชาชน เหมือนที่ใต้หวันเขาทำ ใต้หวันเน้นให้ความรู้กับประชาชนและประชาชนร่วมมือแล้วประชาชนมีวินัยมาก จึงทำให้ใต้หวันไม่ระบาดมาก ตายน้อย รักษาหายมาก เหมือนของเราในปัจจุบันเพราระบบสาธารณสุขของเราแข็งแรง เราดีตรงนี้ เพียงแต่ต้องให้ความรู้กับประชาชนอย่างแท้จริงว่าเรื่องการรักษาสุขอนามัย การป้องกันตัวเองมีอะไรบ้าง ที่สำคัญคือ คนที่ไม่แข็งแรงก็ไม่ควรออกไปข้างนอกควรจะเก็บตัว แต่ถ้าคนแข็งแรงไม่เป็นไร เพราะมีภูมิต้านทาน เชื้อพวกนี้ถ้าคนมีภูมิต้านทาน ไม่ติดหรอก เรากลัวเกินเหตุเพราะเราไม่รู้จริงของเชื้อโรค”

“เรามาดูทั้งโลกติด (โรคโควิด-19) แล้ว 3 ล้านกว่าคน จากประชากรโลก 7 พันล้านคน…ถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์ต่ำมาก… เรากำลังเอาเปอร์เซ็นต์ต่ำนี้มาแลกกับเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อคนโดยเฉพาะ ในประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่มีแรงอุดหนุนอะไรมากมาย ถามว่าคุ้มไหม ผมว่าไม่คุ้ม…คนข้างล่างเขาจะถามว่าถ้าไม่ติดโคโรนา ถ้าอดตายละ…ทั่วโลกนี่ต้องคิดว่ายังมีคนที่ไม่มีเงินออมและมีหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก จะให้เขาเสียสละอย่างไร”

ด้วยเหตุนี้ “ทักษิณ” จึงเห็นว่าทางออกว่า “ควรคลายล็อกดาวน์”

ถามว่า ถ้าวันนี้เป็นคนจัดการปัญหาการระบาดของโรคโควิดในเมืองไทย จะทำอย่างไร “ทักษิณ” ตอบว่า “ผมคงไม่กล้าวิจารณ์อะไร เพราะคิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำงาน เขาคงตั้งใจเต็มที่ เราก็ไม่รู้ แต่สำคัญที่สุดคือการให้ความรู้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รู้เท่ากับรัฐบาล ถ้าประชาชนรู้เท่ากับรัฐบาล รัฐบาลคิดอะไรเขาก็คิดตรงกันทุกอย่าง ต้องให้รู้เท่ากัน ตรงนี้สำคัญ”

กับการช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำที่เคยเป็น ฐานคะแนน “ทักษิณ” จะช่วยคนเหล่านั้นอย่างไร

“ผมคงไม่สามารถจะช่วยคนเป็นล้าน ๆ คนได้ แต่ก็ช่วยตามกำลังตามน้ำใจ เช่น ไปช่วยตามโรงพยาบาล ซื้อชุดพีพีอี ซื้อเครื่องช่วยหายใจ ซื้อหน้ากากให้บ้าง ส่วนชาวบ้านนี่บางทีพวกมีกิจกรรมทั้งหลาย ก็ขอร่วมบริจาค ไปทำกับข้าวเลี้ยงคนบ้าง เอาตังค์ไปแจกร้อยสองร้อยอะไรแบบนี้ ขอให้ผมบริจาคร้อยสองร้อย ผมก็ช่วยบริจาคกองนั้นกองนี้บ้าง ผมก็ทำได้แค่นี้ละครับ” อดีตนายกฯ กล่าว

“ผมทำตัวลำบาก  ไม่ได้อยู่ในประเทศ และไม่อยากให้ถูกมองว่าผมมายุ่งการเมืองหรืออะไร เพราะฉะนั้นผมจึงทำแบบเงียบๆ ดีกว่า อะไรทำได้ก็ทำไป ผมก็เดือนๆ หนึ่งค่าใช้จ่ายสูง เลยต้องมาทำมาหากินที่ลอนดอน ไม่อย่างนั้นไม่พอกิน”

กับการที่ชื่อที่ไปเจ้าภาพงานศพ “ทักษิณ” ตอบตรงว่า “ชื่อผมมันถูกใช้เยอะแยะไปหมด เพราะว่าบางทีผมไม่รู้ตัวเหมือนกัน คือผมเห็นจะคนที่ลำบากต้องฆ่าตัวตาย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ส.ส.พื้นที่เขาเห็นเหมาะสมก็ไปใส่ชื่อผมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งผมแสดงความเสียใจ ก็แค่นั้นเอง ซึ่งผมเป็นเจ้าภาพได้ไงผมอยู่ที่นี่ (ลอนดอน)”

อยากกลับไทย? ทักษิณ กล่าวว่า “เราก็รู้ ๆ อยู่มันมีเงื่อนไขอยู่ คนรักประชาธิปไตย อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้”

“วันนี้ยังเป็นคนไทยที่เขาไม่ให้เป็นคนไทยอยู่แล้ว พาสปอร์ตไทยก็ไม่มี อยู่เมืองนอก ก็ทำในฐานะคนเคยเป็นนายกฯ มีคนเคยสนับสนุนเรามากมาย เราก็เป็นห่วงเขา (ชาวบ้าน) เท่านั้นเอง”

ก่อนหน้านี้ “ทักษิณ” ลงทุนในสตาร์ทอัพด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตลับเล็กๆ  อุปกรณ์ตลับเล็ก ๆ ที่ใช้ตรวจดีเอ็นเอของผู้ใช้ เพื่อนำมาวิเคราะห์ ค้นหาอาหารที่เหมาะสมกับดีเอ็นเอของแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันได้รับการปรับปรุงให้ใช้ตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ และหน่วยงานด้านสาธารณสุขของอังกฤษ ได้สั่งซื้อไปหลายพันชิ้นเพื่อใช้ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อ

เมื่อถามเขาว่า สนใจที่จะส่งเครื่องมือนี้กลับไปให้ประเทศไทยใช้หรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่าหากได้รับ “CE marking” หรือเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสุขภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากทางการอังกฤษ ราวเดือนมิถุนายนแล้ว “แน่นอนผมยินดีที่จะให้เครื่องมือนี้ไปเป็นประโยชน์ต่อสาธารณสุขของไทย ไปช่วยตรวจคนไทยหาเชื้อโควิดในขณะนี้”