“สมคิด” เปิดหน้า-เคลียร์ทุกข่าว ปมร้อนพรรคร่วมรัฐบาล-ปัดปมลือตั้งพรรคใหม่

ชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อยู่บนหน้าข่าวตลอด 2 สัปดาห์ ทั้งข่าวร้อน-ข่าวสุมไฟพรรครัฐบาล แต่ไม่ปรากฏตัว-ไม่ปรากฏเสียงของสมคิดให้กองเพลิงข่าวลือลุกท่วม

“สมคิด” เปิดหน้า-ลงเสียงเป็นครั้งแรก หลังข่าวร้าย-ข่าวลอยลมจมหาย ทั้งโปรเจ็กต์เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ปมร้อนในพรรคร่วมรัฐบาล และข่าวปล่อยตั้งพรรคใหม่-เขย่าเก้าอี้หัวหน้า-เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐและเก้าอี้รัฐมนตรี

“สมคิด” เริ่มบทสนทนาด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีน ถ้ามีวัคซีนเศรษฐกิจฟื้นได้แน่นอน

“ขณะนี้เงินลงไป 4 แสนล้านแล้ว แต่เงินที่หายไปเลย คือ ท่องเที่ยวเกือบ 4.8 แสนล้านบาท ถ้าเอาเงินที่คนไทยใช้เที่ยว เที่ยวในประเทศก็จะดี แต่ต้อง unlock จังหวัดที่คิดว่า save และ unlock ให้กรุงเทพฯไปได้ เพราะอำนาจซื้ออยู่ที่เมืองใหญ่ ถ้ามั่นใจว่าสามารถ maintain ก็สามารถผ่อนคลายได้”

“สมคิด” ยอมรับว่า เงินเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท “ไม่มีทางพอ” เงินรายละ 5,000 บาท บนพื้นฐานที่จะดูแลในช่วง 3 เดือนนี้ ไม่ให้ลำบากจนเกินไป-แบกภาวะไม่ไหว แต่ต้องเผื่อไว้ว่าหลังจากนั้นจะทำอย่างไร

“หลักการเยียวยาเพื่อให้คนที่ลำบากจริง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ขณะนี้จ่ายไปแล้ว 4 แสนล้าน เหลืออีก 2 แสนล้าน ต้องเก็บไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องได้ ต้องให้คนที่ลำบาก เงินไม่มีทางพออยู่แล้ว”

“เคยมีคนมองว่า โควิด-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดหมด แต่ยังไงก็ต้องเปิดอยู่ดี ถ้ามองในแง่ดี กลับกันสิ่งที่เราทำขณะนี้ หลายอย่างยังไม่พร้อม เช่น เรื่องคน เรื่องบุคลากร เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ต้องเร่งขึ้นมา”

“จู่ ๆ ประเทศในย่านนี้ที่แข่งกันอยู่ถูกเซตซีโร่ เรากลับจะได้เปรียบมากทีเดียว ถ้าโควิด-19 หายแล้ว เช่น สนามบินอู่ตะเภา เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ คืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว รถยนต์โดนหนักแต่เกษตรกลับดีขึ้น ถ้าท่องเที่ยวภายในประเทศเกิดขึ้นมาได้จะช่วยได้มาก”

“โชคดีว่าเงินที่กู้มาถ้าเป็นไปตามแผน ตอนนี้ลงไปแล้ว อย่างน้อยก็มีเงินหล่อเลี้ยงได้ ช่วงนี้ไปถึงเดือนตุลาคม ถ้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเดินได้ ไม่เป็นไม้ไอติม ไปถึงชาวบ้านได้ ก็จะช่วยไม่ให้ลำบากเกินไป และเป็นตัวช่วยให้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสให้ได้ ถ้าท่องเที่ยวเตรียมการดีจะเป็นประโยชน์มาก เพราะเมื่อไหร่ที่ให้เที่ยวได้ คนไทยเที่ยวแหลกแน่นอน”

“3-4 เดือนข้างหน้าจะกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจท้องถิ่น มีงานทำ รายได้ มิ.ย.จะเริ่มโครงการ ทำทันทีพร้อมกันทั่วประเทศ เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และกองทุนหมู่บ้านฯ (กทบ.) แต่ไม่ใช่ขอ 100 ได้ 100”

“หลักการ คือ ทำให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง แต่ต้องโปร่งใส ทุกกระทรวงจะถูกส่องกล้อง ถ้าทำดี 4 แสนล้านมีประโยชน์มาก งานนี้ตัดนักการเมืองออกไปเลย ไม่มีรัฐมนตรีมาเกี่ยวข้อง”

เสียงเชียร์นอกศูนย์โควิด และมหาเศรษฐี-กุนซือนอกทำเนียบ ฟันธงเงินกู้ 1.9 ล้านล้านไม่เพียงพอ ต้องอัดฉีดเศรษฐกิจอีก 2 ล้านล้าน แต่ “สมคิด” ยังคงโฟกัสที่เม็ดเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท

“กู้ไปทำอะไร ต้องยืนให้ได้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง แค่ 3 เดือน ก็ 4 แสนล้านบาทแล้ว ต้องใช้ตรงนี้ทำให้เกษตรเข้มแข็ง สร้างงาน ทำรายได้”

นอกจากโปรเจ็กต์ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ที่สมคิดยังปล่อยมือ-ละสายตาไม่ได้ ทว่ายังต้องแก้ข่าวทั้งเบื้องหน้า-หลบหลีกคำถามสื่อ และการเสาะแสวงหาต้นต่อข่าวปล่อย-ข่าวดิสเครดิต

ทั้งข่าวสมคิด ชิง-ชง CPTPP เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำให้สมคิดต้องนอนลาป่วย-ไม่อยู่ใน ครม.เพื่อสยบข่าวลือ “รองนายกรัฐมนตรีกำกับกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานเจ้าของเรื่องที่มีอำนาจเสนอเข้า ครม. หน้าที่เรา คือ จะทำอย่างไรให้เราเสียเปรียบน้อยที่สุด”

ตีคู่กับข่าวการบินไทยทำนองว่า “สมคิด-อุตตม สาวนายน” ไม่เห็นชอบให้ การบินไทยเข้าแผนฟื้นฟู ถึงแม้สมคิดจะไม่ตอบ-ให้ถามกระทรวงคมนาคม หลังตกเป็นจำเลยสื่อโซเชียล-ทัวร์ลง

“วันที่ประชุมที่คมนาคม ทุกคนเห็นชอบข้อเสนอของที่ปรึกษาการเงินการบินไทย และก็เข้า คนร. โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังและคมนาคมก็จบ ผ่านมาเกิดเปลี่ยนใจอยากให้เข้าแผนฟื้นฟู ซึ่งไม่ได้ขวางเลย”

สุมไฟ-เพิ่มอุณหภูมิการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์

“ผมไม่ได้มองใครเป็นศัตรู ไม่ได้ขวางทางจราจรใคร”

ผสมโรงกับข่าวตั้งพรรคสร้างไทย “สมคิด” สาวไปถึงต้นตอ-แหล่งปล่อยข่าวในทำเนียบรัฐบาล ก่อนจะตัดบท

“กรุณาอย่าเอาชื่อผมไปตั้งพรรคใหม่นะ ชอบเอาชื่อผมไปขาย” ก่อนเขาจะถามตัวเองดัง ๆ ว่า “ทำไม ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อตอบโต้เรื่องพวกนี้”

ส่วนเกมเขย่าเก้าอี้หัวหน้า-เลขาฯพรรค และรัฐมนตรีจะจบลงอย่างไร “สมคิด” เด้งเชือก-คนนอกพรรค “ปล่อยให้รับผลของกรรมไป”

“สมคิด” ปฏิเสธว่า ไม่ใช่พี่เลี้ยง สี่กุมาร แต่เมื่อลูกน้อง-ศิษย์ก้นกุฏิต้องการที่พึ่งทางใจจึงยากที่จะปฏิเสธ อย่าง “อุตตม” ต้องผ่านคมหอก-คมดาบ เมื่อเปิดสภาพิจารณา พ.ร.ก.โควิด3 ฉบับ 1.9 ล้านล้าน

“สมคิด” เบาใจเพราะกฎหมายใหม่สามารถให้ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงบประมาณช่วยชี้แจงได้ แต่มีอย่างเดียวที่คลังจะโดน คือ เยียวยาไม่ครบ แต่ต้องตอบได้

“ผมจะไปให้กำลังใจ อุตตมตอบได้อยู่แล้ว ตอบง่าย คุณไม่เห็นด้วยกับการกู้ใช่ไหม หนี้เงินกู้ต้องไม่เกิน 60% ใช่ไหม ถ้าไม่กู้จะเอาเงินที่ไหน ทำไมไม่ตัดงบประมาณ กระทรวงก็ต้องรับไปว่าได้แค่นี้ ถ้าเตรียมตัวดี ตอบได้”

ส่วน “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.การอุดมศึกษาฯ ก็ขึ้นพาดหัวไม้สื่อยักษ์ ถูก กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลโครงการประกวดราคาจัดซื้อครุภัณฑ์เพื่อการพัฒนาเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ ระยะที่ 2 งบฯปี’63 วงเงิน 392 ล้านบาท

ขณะที่ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พลังงาน ก็โดนข่าวพ่นพิษดึงงบฯจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานซื้อใจ ส.ส.ถึง 8 หลัก เพื่อสนับสนุนให้นั่งเลขาธิการพรรคต่อ

“กระทรวงพลังงานเป็นทุกขลาภของสนธิรัตน์ตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย”

แม้สมคิด-สี่กุมารจะต้องเผชิญกับสิ่งเร้ารอบด้าน แต่เขายืนยันว่า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ชื่อนี้ยังเป็น “กัลยาณมิตร”