สุวิทย์ : เปิดใจอยู่กลางเขาควาย ศึกพลังประชารัฐ-พลังงานคือขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า

ศึกยึดพรรคในพลังประชารัฐ (พปชร.) สุกงอม-ใกล้ถึงฉากจบ ในการประชุมพรรคสามัญวันที่ 19 มิถุนายน 2563 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคคนใหม่ ก่อนนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)

“สุวิทย์ เมษินทรีย์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)-รักษาการกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค 1 ใน 4 กุมาร  เปิดใจ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึง “จุดเปลี่ยน” ของพรรค และการดีไซน์ท่าจบของ 4 กุมาร-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาทางใจ

Q : เกมการเมืองเดินมาไกลจะมีการเขย่าจนถึงวันเลือก กก.บห.ชุดใหม่ ในวันที่ 19 มิ.ย. นายกฯ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ยังแบ่งรับแบ่งสู้

ท่านนายกฯอยู่ในจุดที่ลำบากใจที่สุด หลังโควิด-19 ท่านจะเหนื่อย เพราะเป็นวิกฤตเชิงซ้อน มีเรื่องเศรษฐกิจ ภัยแล้ง และแฟลชม็อบ ต้องประคองให้ดี แต่ไม่คิดว่าการเมืองจะมาเขย่าในช่วงนี้

Q : แต่ก่อนสามมิตรซัพพอร์ตรองนายกฯ สมคิดมาก จุดเปลี่ยนคืออะไร

คือการจองกระทรวงพลังงานตั้งแต่แรก แต่พี่สน (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รักษาการเลขาธิการพรรค) เป็น รมว.กระทรวงพลังงานซึ่งถือว่าเป็นขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ดูเหมือนกระทรวงเล็กแต่เงินมหาศาลและใช้ง่าย จึงเป็นการปะทะกัน

สามมิตรแต่ก่อนโชว์พลัง แต่กลายเป็นว่า ได้อุตสาหกรรม ได้ยุติธรรม จึงเกิดการขับไล่เลขาธิการพรรค คือ exercise แรกของสามมิตร หลังจากนั้นก็มูฟต่อมาเรื่อย ๆ

Q : พรรคสะสมคลื่นใต้น้ำตั้งแต่วันแรกจนจบ

ถูกต้อง มันถูกมองตั้งแต่แรกว่า 4 คน ก็วน 4 กุมารมันได้ดีหมด กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวง อว.อีก

Q : เกมจะไม่ไปต่อถ้า พล.อ.ประวิตรไม่เข้ามา

ช่วงนี้ความห่างของสมาชิกพรรคบางส่วนหัวหน้าและเลขาธิการพรรค มันร้าวจนกระทั่งปริ ผมเชื่อว่า 3 คนนี้อยู่ในพรรคไม่ได้แล้ว รอยปริห่างจนกระทั่งมี distancing เยอะมาก

Q : แต่ 4 คนหาเสียงกันมา เป็นผู้ก่อตั้งพรรคด้วย

เขาไม่ได้มองอย่างนั้น เขามองว่าพวกนี้ขาลอย ไม่มี ส.ส.

Q : ถ้าถูกยึด กก.บห.พรรค ตำแหน่งรัฐมนตรีจะรุกไปถึงไหน

สมการของการรุกเพื่อเปลี่ยน กก.บห.พรรค เพื่อการรุกในตำแหน่ง ครม.อยู่แล้ว ที่เหลืออยู่กับท่านนายกฯ ผมว่าซื้อเวลาได้ระดับหนึ่ง หลังโควิด-19 เป็นเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจ ท่านนายกฯคงไม่คิดเปลี่ยนม้ากลางศึก จนกว่า…เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ผมอยู่ในฐานะที่ ถ้าลาออก นายกฯก็เสีย แต่ถ้าออกคนเดียว เท่ากับผมทรยศกับอีก 2 ท่าน (นายอุตตม สาวนายน รักษาการหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์) มาด้วยกัน ไปด้วยกัน ใครอย่าคิดสั้นนะ เป็นสปิริต

เหมือนอยู่ในภาวะท่ามกลางเขาควาย หนึ่ง อยากออก เดี๋ยวนายกฯเสียภาพใหญ่ พอออกกลายเป็นว่า ต้องปรับ ครม. เข้าทางอีก สอง ถ้าไม่ออก ก็ถูกพรรคทิ่มต่อ

Q : ต้องใช้กลยุทธ์อะไรในการอยู่

เหล่าจื๊อไง (หัวเราะในลำคอ)

Q : อยู่เหมือนไม่อยู่ ไม่อยู่เหมือนอยู่

อะไรแบบนั้น ผมมันง่าย เพราะผมไม่ได้ติดอยู่ในฐานะหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค คือ ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็โดนทิ่ม โดนเรื่องการประชุม กก.บห. 45 วันอีก

ผมอยู่ในฐานะปลอดมาก ผมไม่ได้อยู่ในเรดาร์ พรรคก็รู้อยู่แล้วว่า ผมไม่ได้ยุ่งตั้งแต่แรก ผมไม่ได้ให้ดีให้ร้ายกับใคร แต่ตอนนี้อยู่ต้องแยกเรื่องการเมืองออก

หนึ่ง ผมขอโทษนะ ที่ผ่านมาความไม่คุ้นชิน ทำให้ผมไม่ได้เข้าไปในพรรคมากมาย เราก็ต้องมีสปิริต ต้องขอโทษ สอง ยังไงท่านนายกฯ และท่านสมคิด เป็นคนดึง 3 คนมา ยังไงก็ต้องปรึกษาท่านก่อน สาม ผมมันเป็นการบ้าน ไม่ใช่การเมือง

Q : แต่ตอนนี้กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม หัวหน้าและเลขาธิการพรรคจะไปต่อกันอย่างไร

ตัวผมเองนั้นห่างกับพรรคมาพอสมควร แต่ 2 คนนั้นก็ต่างคนต่างรบ 3 คนมีวัตถุประสงค์ต่างกัน

ของผมรู้อยู่แล้ว ตอนนี้เราอยู่มาแล้วเกิน 4 ปี เหมือนคนจบปริญญาตรี พอแล้ว (เสียงดัง) เอาอะไรมาก เราทำคลอดกระทรวง อว.แล้ว เราไปต่อสู้จนที่สุดได้กระทรวงใหม่

3 คนไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ไม่มี common goal ที่จะสู้กันต่อ ตอนนี้ยังมีใครไปพูดถึงเรื่องไปตั้งพรรคใหม่ เราบอกไม่เอาเลย ไม่เอาแล้ว พอแล้ว

ถ้าเอา คงไม่เขียนหนังสือ โลกปรับ-คนเปลี่ยน ควรจะเขียนแรง ๆ นำเสนอตัวเอง คนอื่นจะบอกว่า บ้า เป็นรัฐมนตรีจะเขียนหนังสือแบบนี้ทำไม เพราะเราไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อต่อเนื่องทางการเมืองแล้ว หาเวลาที่เหมาะสม

Q : ดีไซน์ท่าจบอย่างไรให้ดีทุกฝ่าย

ใช่…หนึ่ง ไม่ต้องเป็นผู้ร้าย แต่เราก็ไม่อยากเป็นพระเอก วันนี้ถ้าผมทิ้งบอมบ์ลาออกคนเดียว เป็นพระเอก แต่เพื่อนเลิกคบเลย สอง จับมืออีกคนไม่ออก คนที่สามจะเน่า

Q : ถ้านายกฯเห็นการเคลื่อนมาประชิดตัว นายกฯต้องหาคนมาสำรองไว้เป็นทีมเศรษฐกิจของพรรค

บางเรื่อง beyond พวกผมไปแล้ว

Q : รองนายกฯสมคิดก็ไม่อยากอยู่ แต่เกรงใจนายกฯ

ต่างคนต่างเกรงใจกันมากกว่า ถามง่าย ๆ ผมไม่ได้เข้าข้างลูกพี่ผมนะ วันนี้ลองเปลี่ยนใครจะยอมมา ยกเว้นอยากมา ถามว่าคนที่ดีกว่าอาจารย์สมคิด หรือว่าเท่ากับอาจารย์สมคิดมีไหม มี แต่ผมเชื่อว่า เขาไม่มา

Q : เมื่อถึงเวลาที่การเมืองรุกให้ต้องถอยและออกไปจากเกม นายกฯต้องมาบอก หรือเราต้องถอยออกเอง

นี่คือทาง 2 แพร่ง ออกก่อนก็ไม่ดี โดนเขาปลดออกก็ไม่ดี ออกก่อนตอนนี้ นายกฯเสีย และจะถูกรวนโดยที่เหลือ เข้าเกมการปรับ ครม.ทันที ถ้าออกทีหลัง ก็กลายเป็นว่านี่ไง นายกฯเขาเลือกแล้ว you ไปได้แล้ว

ผมจึงส่งสัญญาณปรัชญาเหล่าจื๊อ ผมไม่ยึดติด ภารกิจใกล้จบมากแล้ว ทั้งหมดต้องไปปรึกษานายกฯ เราคิดเอง ทำเอง อยากลาออกก็ลาออกไม่ได้ ไม่ได้พลิกลิ้น เมื่อภารกิจจบ เราไป

วันนี้สิ่งที่เราทำมาเพียงพอแล้ว สำหรับกระทรวงใหม่ แต่ถ้านายกฯให้อยู่ ค่อยมาว่ากัน

ผมยังบอกเลยว่า ผมขอโทษนะ แต่ไม่ได้ขอโทษพรรคเพื่อกลับไปทำดีกับพรรค ผมขอโทษที่ผมไม่คุ้นชินกับการปฏิบัติกับพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกับการต้องกลับไปเป็น กก.บห.พรรค ผมขอโทษในกรรมเก่าที่ผมทำ

สิ่งที่ผมพูดไป 2-3 วันที่ผ่านมา น่าจะถูกต้อง มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน เรามาจากนายกฯ และอาจารย์สมคิด จะไปก็ต้องไปคุยกับท่านนายกฯ กับอาจารย์สมคิด

ณ วันนี้ ผมกับพรรคไม่มีอะไรกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าพรรคบอกว่า you ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีโควตาพรรค you ต้องออก ผมก็ยินดีออก วันนี้เพียงเก็บงาน วันนี้ไม่ทุกข์

สำหรับผม freehand มาก political ambition (ความทะเยอทะยานทางการเมือง) ไม่มี ไม่ผิดหรอกที่แต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน ไม่อยากคิดเผื่อใครว่า สู้แล้วจะชนะ

Q : นายกฯอาจชิงปรับ ครม.ก่อนเปลี่ยน กก.บห.พรรค

เดาว่า นายกฯจะมองเรื่องนี้แยกออกจากกัน แต่ไปด้วยกัน คือจะไม่มาผูกว่า เพราะ you มีอันนี้ เลยปรับ ครม.ให้ ไม่มีทาง นายกฯคนนี้ไม่ใช่สไตล์นี้

แต่ถึงวันหนึ่งด้วยแรงกดดัน เมื่อทุกอย่างตกผลึกแล้ว ท่านก็จะปรับ นายกฯจึงส่ง signal ว่า อาจจะปรับ ครม. โดยไม่บอกก็ได้นะ ผมคิดว่า นายกฯ วางเกมในลักษณะ independent (อิสระ) ไม่เกี่ยวกัน แต่จริง ๆ เกี่ยวกัน (หัวเราะ)

Q : กลุ่ม 4 กุมารดูเหมือนกลืนไม่เข้า คายไม่ออก

ลำบาก กลายเป็นตั้งรับ วัน ๆ ก็โดนทิ่ม

Q : แล้วจะรุกกลับอย่างไร

the best คือ ออก แต่ต้องหาวิธีออก

Q : ดีไซน์ท่าจบให้สวยงามยากกว่าท่าขาขึ้นทางการเมือง

ถูกต้อง ผมเคยบอกกับอาจารย์สมคิดแบบทีเล่นทีจริงว่า อย่าใช้มุขเก่านะ ไม่สบาย เลี้ยงหลาน (หัวเราะ) แกคงเบื่อเต็มทน อยู่ต่อก็อยู่ยาก เพราะไม่เหมือนสมัย คสช.ที่ดูภาพเศรษฐกิจทั้งหมด ต่อให้แกอยู่ก็ไม่ได้ดู ภาพเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จ

Q : The Best คือ การลาออก จะทำอย่างไรให้ในทางการเมืองนิ่มนวล ไม่รู้สึกว่าทำให้นายกฯเสียหน้า

ก็ต้องทำให้ หนึ่ง ยิ่งพรรคทิ่มเรามากเท่าไหร่ก็อาจจะเป็นการช่วยให้เราออกเร็วขึ้นก็ได้ เพื่อให้ท่านนายกฯสบายใจ

Q : ถ้าถึงวันประชุมใหญ่แล้วหลุดจาก กก.บห.พรรค จะทำอย่างไร สังคมการเมืองจะมองเราแบบไหน ต้นทุนการเมืองที่มีมาจะทำอย่างไร

พูดง่าย ๆ 3 คน link กับพรรคเหลือแค่เส้นบาง ๆ เส้นหนึ่ง ที่เรียกว่า สมาชิกพรรค (หัวเราะ)

ผมยังเคยคิดว่าจะลาออกให้หมดเลย เพราะอาจจะเป็นการง่ายสำหรับผม ถ้าลาออกทั้งหมดแล้ว ผมก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะเป็นรัฐมนตรี

อย่างผมง่ายมาก มาหาว่าผมไม่เข้าพรรค ผมก็ขอโทษให้ จริง ๆ ถ้าผมยื่นลาออกจากสมาชิกพรรค คือจบโดยปริยาย หมดทุกอย่าง หลังจากนั้น เมื่อ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็จบทุกอย่าง

ตอนนี้คนที่ผมแคร์จริง ๆ คือ ท่านนายกฯ ทำแล้วไม่มีผลกระทบและกลับกลายเป็นบวกกับทางพลังประชารัฐ ผมให้เลย เพราะผมต้องการออก แลกกัน

Q : แต่จะเป็นเรื่องใหญ่มาก เดินตาเดียวกระจายทั้งกระดาน

ใช่ แต่ไม่อยากหาเรื่องแล้ว

Q : ถ้าการออก แล้วงานที่ทำมาที่รู้สึกว่าต้องจดจำเป็นประวัติศาสตร์ส่วนตัวคืออะไร

กระทรวงนี้ถูกดีไซน์ขึ้นมาด้วยการต่อสู้ด้วยนะ เพื่อต้องการให้เป็นด่านหน้าของการเปลี่ยนแปลงประเทศ เพราะฉะนั้น กระทรวงนี้ถูกออกแบบมา ใช้พลังปัญญาของมหาวิทยาลัย ของสถาบันวิจัย สกอ. สกว. สภาวิจัย

เพราะเหตุผลอันนี้ สิ่งแรกที่ผมคิดว่า ที่เดิมเราคิดและอยากจะฝากไว้ คือ เรื่องของการเปลี่ยนแปลงประเทศ