เคารพการตัดสินใจทุกคน! “ไก่อู” เผย “บิ๊กตู่” รับทราบ “ชัชชาติ” ไม่ร่วม คกก.ยุทธศาสตร์แล้ว

“ไก่อู” เผย “บิ๊กตู่” รับทราบ “ชัชชาติ” ไม่ร่วมคกก.ยุทธศาสตร์แล้ว ระบุรัฐบาล-คสช.เคารพการตัดสินใจทุกคน ลั่นไม่เสียหน้าเพราะไม่เคยเอาหน้าตากำหนดประเทศ เตรียมสรรหาคนใหม่ที่เหมาะสม โยนถาม “วิษณุ” กำหนดกรอบเลือกคนใหม่

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมปฏิเสธไม่รับตำแหน่งหลังถูกแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันว่า ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ให้ทีมงานแต่ละส่วนที่รับผิดชอบไปสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมาทำหน้าที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประเทศเราเดินหน้าต่อไปได้ แต่หากคนใดที่ได้รับการทาบทามแต่ติดขัดเรื่องใดเรื่องหนึ่งรัฐบาลก็เคารพการตัดสินใจ หากใครมาได้ก็มาแต่หากติดขัดหรือมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรรัฐบาลก็พิจารณาเลือกสรรคนใหม่

“ความจริงแล้วที่รัฐบาลเชิญหลายส่วน หลายฝ่าย เพราะที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้รับฟังความคิดเห็นมาตลอด ก็แทนที่จะออกความเห็นแล้วไม่มีคนรับฟังก็มาช่วยกันเป็นคณะกรรมการแล้วช่วยกันเดินหน้าประเทศไม่ดีกว่าหรือ แต่หากท่านใดที่ให้เหตุผลติดขัดเรื่องส่วนตัวไม่สามารถรับหน้าที่ได้ก็ไม่เป็นไร ส่วนการสรรหาคนใหม่จะต้องให้นายวิษณุเครืองามรองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาเพื่อนำเสนอต่อนายกฯ ซึ่งนายกรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

พล.ท.สรรเสริญกล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนประเทศหรือการทำยุทธศาสตร์ชาติมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของชาติบ้านเมืองคงไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาบอกว่ารัฐบาลหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสียหน้าหรือไม่เสียหน้า เพราะถ้าเชิญเขาแล้วแต่เขาไม่มาก็ไม่เป็นไร รัฐบาลคงการเสียหน้าเพราะชาติบ้านเมืองสำคัญกว่าและไม่มีใครเอาหน้าตามากำหนดอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเป็นเพราะนายชัชชาติเคยทำงานในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าเรื่องนี้ถูกยกมาเป็นประเด็นทางการเมืองได้อย่างไร แต่ คสช.และรัฐบาลนี้ไม่อยากให้ความสำคัญกับประเด็นการเมือง เพราะทุกเรื่องที่เป็นการขับเคลื่อนประเทศ เป็นการกำหนดแนวทางในการวางรากฐานการปฏิรูปประเทศเราจะเอาเรื่องของการเมืองมาปะปนด้วยไม่ได้เพราะจะทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ รวมถึงหากเรายึดติดว่าคนนั้นคนนี้เคยทำงานกับกลุ่มการเมืองฝ่ายไหนเราก็จะลำบากและกลายเป็นข้อจำกัดของตัวเอง รัฐบาลจึงยืนยันว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับสีสันของประเด็นการเมืองรวมถึงอยากให้สังคมก้าวข้ามเรื่องการเมืองเพราะหากเรายังยึดติดตรงนี้ก็จะทำให้ไม่ไปไหน

 

ที่มา มติชนออนไลน์