BEM ใจดี! ตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้า”สายสีน้ำเงิน” ถึง 31 ธ.ค. ’63

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ฯ สายเฉลิมรัชมงคล สายฉลองรัชธรรม และอัตราค่าโดยสารร่วม รวม 3 ฉบับ เนื่องจากสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินกำหนดให้ดำเนินการปรับอัตราค่าโดยสารทุก ๆ ระยะเวลา 24 เดือน และอัตราค่าโดยสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะครบกำหนดการบังคับใช้ตามสัญญา ในวันที่ 2 ก.ค.2563 และจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อนวันที่ 3 ก.ค.63 ดังนี้

1.รถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ อัตราค่าโดยสารใหม่เริ่มต้น 17 บาท สูงสุด 42 บาท โดยสถานีที่ 1, 4, 7, และ 10 จะมีอัตราโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1 บาท และจะมีผลบังคับใช้ 24 เดือน หรือ ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.63-2 ก.ค. 65

อย่างไรก็ดีบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM แจ้งว่าเพื่อเป็นการเยียวยาและแบ่งเบาภาระประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงมีความยินดีที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเต็มที่ โดยจะยังคงอัตราค่าโดยสารไว้เท่ากับอัตราเดิม จนถึงวันที 31 ธ.ค.63 และจะเริ่มใช้ค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 เป็นต้นไป

2.รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม แม้จะไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสาร แต่เนื่องจากได้มีการปรับถ้อยคำในร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม พ.ศ. … โดยแก้ไขประเภทบุคคลที่ไม่ต้องเสียงค่าโดยสาร อาทิ ปรับแก้ข้อความจาก “120 เซนติเมตร” เป็น “ความสูงเกิน 90 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 120 เซนติเมตร” เพราะตามข้อบังคับฯ เด็กซึ่งมีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร ได้รับการยกเว้นอยู่แล้ว