นิพิฏฐ์ : หยุดเลือดประชาธิปัตย์ ถ้าเป็นรัฐมนตรีฟื้นพรรคไม่ได้ต้องเปลี่ยน

"นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
สัมภาษณ์พิเศษ
ปิยะ สารสุวรรณ

ความเคลื่อนไหวของกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)-ส.ส.และอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เกือบ 20 คน เซ็นใบลาออกจาก กก.บห. “ล่วงหน้า” เพื่อเปิดทางจับเข่าคุย-หันหน้าแก้ปัญหาภายในพรรคกำลังจะเดินมาถึงจุดแตกหัก

“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรค-แม่ทัพปักษ์ใต้ เปิดใจ-เคลียร์ปมขัดแย้งภายในพรรค เขาฟันธงว่า ถ้า “ไม่ห้ามเลือด” จะมี ส.ส.ไหลออกจากพรรคเพิ่ม

Q : ไม่พอใจพรรคเรื่องอะไร

ไม่ใช่ความไม่พอใจ แต่สมาชิกส่วนหนึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคใต้คิดว่า พรรคควรจะมีการปรับปรุงการทำงานให้ดีกว่านี้ได้

ต้องคุยกับหัวหน้า เลขาธิการพรรค ตลอดระยะเวลามีช่องว่างอยู่บ้าง เพราะไม่ค่อยได้คุยกัน สมาชิกพรรคบอกว่า ไม่อยากอยู่แล้ว อยากจะลาออก อยากจะไปพรรคอื่น สมัยหน้าไม่อยากอยู่แล้ว จะไปตั้งพรรคใหม่ จะไปเป็นผู้นำพรรคอื่น

มี กก.บห.พรรคเซ็นชื่อเพื่อลาออกจาก กก.บห.พรรคเกือบถึงครึ่ง ผมเซ็นให้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่า มีคนต้องการปรับปรุงและไม่พอใจสถานภาพของพรรคขณะนี้

Q : กก.บห.จะลาออกเกินครึ่ง เพื่อให้พ้นทั้งคณะ แล้วเลือกหัวหน้า-เลขาฯ พรรคใหม่

ไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ต้องคุย มี กก.บห.ลาออก 18 คน กับ 20 คน ค่าเท่ากัน

“ผมพูดได้เกินครึ่งว่า ผมจะวางมือแล้ว เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของผมแล้ว ที่ต้องการทำให้พรรค ผมมาถึงจุดนั้นแล้ว ไม่มีความทะเยอทะยานอยาก (เป็นรัฐมนตรี) ผมเป็นมาหมดแล้ว พรรคให้ผมมาเยอะแล้ว”

ผมต้องการฟื้นพรรค ประชาธิปัตย์เปรียบภาคใต้เป็นยานลำแม่ ถ้ายานลำแม่ตก ไม่ต้องพูดถึงยานลำลูกเลยจะอยู่ได้หรือเปล่า วันนี้ยานลำแม่จะตกอยู่แล้ว ถ้ายานลำแม่ตกตายหมู่เลย

ต้องฟื้นปักษ์ใต้ ภาคใต้ผูกพันและเป็นฐานหลักของประชาธิปัตย์มาโดยตลอด โอกาสที่ภาคใต้จะชนะมากกว่าภาคอื่น ควรจะฟื้นยานลำแม่มาให้ได้ แต่วันนี้ไม่มีใครพูดถึงยานลำแม่เลย

ปัจจัยที่จะทำให้ยานลำแม่ฟื้นกลับมามี 5 เรื่อง 1.คน ต้องมีคนรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ แต่ละเขตที่แพ้การเลือกตั้ง 2.ทุน วันนี้ปฏิเสธทุนไม่ได้ เวลาพูดถึง ส.ส. ไม่พูดถึงอดีต ส.ส. แต่กลับต้องการให้อดีต ส.ส.ชนะการเลือกตั้ง ที่ผ่านมาแปลกตรงที่ว่า เราดูแล ส.ส.เป็นหลัก ไม่ดูแลอดีต ส.ส.

“คุณซัพพอร์ต ส.ส.เท่าไหร่กัน แต่คุณไม่ซัพพอร์ตอดีต ส.ส.เลย คุณเห็นแก่ตัวหรือเปล่า คุณอยากให้พรรคอยู่แค่นี้หรือเปล่า ถ้าคุณปฏิเสธทุน คุณไม่ต้องพูดเลย คะแนนมันไม่มาหรอก”

3.ความเป็นเอกภาพ ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ภาคใต้ 22 คน แต่ ส.ส.อยู่ที่จังหวัดสงขลาหมด 22 คน ผมพูดตรงไปตรงมา เวลาดูแล-ทำพื้นที่เฉพาะสงขลา คุณไม่ได้ดูแลคนอื่นเลย

4.นโยบาย ก่อนการเลือกตั้ง ผมประกาศปฏิญญาทุ่งสงให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ วันนี้คุณเป็นรัฐมนตรีแล้วได้ทำบ้างหรือยัง กระจายอำนาจได้ทำไหม สร้างถนนสายใหม่ทำไหม ยกระดับโรงพยาบาลเป็นหลักในปักษ์ใต้ทำไหม ยังทำตัวเป็นปลัดกระทรวงกันอยู่เลย

5.ต้องประเมินการทำงานของรัฐมนตรี ถ้าเป็นรัฐมนตรีแล้วไปไม่ได้ ฟื้นพรรคไม่ได้ คุณต้องเปลี่ยน แต่คุณคิดว่ารัฐมนตรี 7 คนมันดีฉิบ ดีมากเลย เลือกตั้งสมัยหน้าได้ ส.ส. 250 คน ให้อยู่ต่อเลย แต่ถ้าคิดว่า ต้องเปลี่ยนคนเพื่อกระชากอารมณ์ กระชากกระแสขึ้นมาให้ดีขึ้น ต้องเปลี่ยน แต่วันนี้ มีก๊ก มีเหล่าทั้งนั้น

Q : ถ้าคุยหัวหน้าพรรคไม่รู้เรื่อง

ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องจะมีเลือดไหลออกตลอดเวลา ขณะนี้เลือดไหลออกจากเส้นเลือดใหญ่ ต่อไปจะไหลออกจากเส้นเลือดฝอย ปรากฏการณ์ ส.ส.ไปกินข้าว วันนี้ไปลึกกว่านั้นแล้ว ต้องห้ามเลือด ทำให้เลือดหยุดไหลออกจากเส้นเลือดฝอย

วันนี้สิ่งที่พรรคต้องทบทวน คือ แก่นและหลักการของพรรค คือ อะไร ต่างจากพรรคอื่นอย่างไร เรามีจุดแข็ง คือ อะไร ทำไมต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าตอบไม่ได้เตรียมเลย กระแทกพื้น

Q : ประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหนของรัฐบาลและการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทุกคนทำงานหนักมากแต่ผลงานที่ออกมาจะได้สัดส่วนกับการทำงานหนักหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง คะแนนออกมาตามเป้าหมายที่ทำงานหนักหรือไม่

เวลาเราทำผลงานอะไรออกมา คะแนนไปอยู่ที่รัฐบาล ไปอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ เป็นปัญหาของพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 4 เราเข้าใจความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่บางเรื่องเราต้องมีจุดยืนของเราด้วย

เราถูกแย่งพื้นที่ด้วยพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เราถูกเบียดพื้นที่หมดแล้ว ต้องปรับใหญ่

Q : หมายถึงเปลี่ยนหัวหน้า-เลขาธิการ หรือปรับรัฐมนตรีในโควตาของพรรค

ทุกส่วนครับ รวมถึงการปรับ ครม.ด้วย หัวหน้าก็ไม่มีปัญหา แค่ต้องปรับวิธีการทำงาน

Q : เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีโควตาพรรคจะแก้ปัญหาแรงกระเพื่อมได้หรือไม่

ไม่ปรับก็กระเพื่อม ปรับก็อาจจะกระเพื่อม ผมคิดว่า ถ้าเปลี่ยนเรามีโอกาสมากกว่า ถ้าไม่เปลี่ยน เลือดไหลออกอีกระลอกหนึ่ง ทั้งจากเส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอย

“เวลา ส.ส.จะลาออก ไม่ใช่ลาออกวันนี้ อันตรายมาก เขาจะลาออกก่อนเลือกตั้ง 90 วัน อยู่จนถึงวันสุดท้ายของ 90 วันก่อนยุบสภา และไปสมัครสมาชิกใหม่ ถ้าทำอย่างนั้น คุณจะเอาใครไปลงแทนเขา หาคนไม่ทัน ทำพื้นที่ไม่ทัน”

Q : ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนจะอยู่กันอย่างไร เรียกสภาวะเช่นนี้ว่าอะไร

ก็อยู่กันอย่างนี้จนกระทั่งว่า เลือกตั้งเสร็จก็ต่างคนต่างไปกัน

Q : ประเมินคู่แข่งอย่างไรในยุทธศาสตร์ทวงคืนภาคใต้

ภัยคุกคามประชาธิปัตย์เวลานี้ คือ พรรคพลังประชารัฐ กับพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันด้วย รวมถึงเหตุและปัจจัยอื่นที่เราไปพูดให้เขาเสียหายไม่ได้ เช่น การสู้กับพรรคภูมิใจไทย เราเจอบุรีรัมย์โมเดล จนเราตั้งตัวไม่ทัน

Q : พรรคสุเทพเป็นคู่แข่งหรือพันธมิตร

ยังไม่ถือเป็นคู่แข่ง แต่ยังไม่ถือเป็นภัยคุกคาม

Q : ประเมินขุมกำลังในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคสุเทพอย่างไร

(นิ่งคิดนาน) ผมไม่แน่ใจว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคนี้ยังอยู่หรือไม่

Q : จะต่อท่อกับเครือข่ายของลุงกำนันในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่

ไม่หรอก เขาคงไปพลังประชารัฐดีกว่ามั้ง เขาคงไม่มาที่เรา

ส.ส.ที่เขาสนิทชิดเชื้อก็มี เพราะพี่สุเทพเขาอยู่ประชาธิปัตย์มานาน เคยเป็นอดีตเลขาธิการพรรค การรู้จักมักคุ้น การมีความสัมพันธ์กับสมาชิกพรรคเป็นธรรมดา

Q : มีโอกาสที่ลุงกำนันจะกลับมาอยู่ประชาธิปัตย์หรือไม่

ผมคิดว่า ไม่มา เพราะแนวทางการทำงานการเมืองของท่านตอนหลังกับเรา ไม่ได้ไปในทางเดียวกัน การสนับสนุนทหารทุกเรื่อง เต็มที่ สนับสนุนรัฐธรรมนูญเต็มที่ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เต็มที่ คงยากที่จะกลับมา

Q : การเลือกหัวหน้าพรรคที่ผ่านมา 2 ครั้ง มีความพยายามเปลี่ยนหัวหน้า-เลขาธิการพรรคเพื่อส่งคนมายึดพรรค

อย่าไปคิดว่าเขาจะส่งคนมายึดพรรคเลย เป็นการแข่งขันธรรมดา แต่พี่สุเทพเขาอาจจะสนับสนุนอีกคนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่การยึดพรรค เพียงแต่ผู้สมัครคนนี้ พี่สุเทพอาจจะสนับสนุน แต่ไม่ได้ประกาศชัดเจน คิดกันไปเองว่าเขาสนับสนุน

“คุณพีระพันธุ์ เมื่อแพ้ก็ไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ มันก็เจือสมกับที่เราสงสัยว่า คุณพีระพันธุ์ คุณสุเทพสนับสนุน แต่เราไม่คิดว่า เขาจะเข้าไปยึดพรรค”

Q : ตอนนี้ยังมีความพยายามอยู่หรือไม่

ต่างกัน ตอนนั้นบางคนคิดว่าจะยึดพรรคโดยส่งคนมาแข่งหัวหน้าพรรค ตอนนี้ไม่ใช่แข่งหัวหน้า แต่ถ้าจะยึดพรรคก็คือ การดึงคนออกจากพรรค

Q : ปรากฏการณ์ ส.ส.ของพรรคไปกินข้าวกับคุณพีระพันธุ์ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นขบวนการดูดคนออกจากพรรค

ผมไม่รู้ว่า ดูดหรือเปล่า แต่เราเชื่อว่า เขาไปคุยกันในฐานะคนรู้จักกันมากกว่า

Q : จุดพลิกของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีภาคใต้เป็นยานลำแม่

ต้องเปลี่ยนหน้าเล่น ผมถอยไปอยู่แถวสอง แถวแรกต้องให้เด็กมันเล่น ต้องโชว์เด็ก ต้องให้บทบาทกับเด็ก ผมพยายามถอยออกมา ผมต้องการคนหนุ่ม ๆ ในปักษ์ใต้ เราอยู่แถวหลัง สร้างคนใหม่ สร้างภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่

เรากล้าเปลี่ยนตัวเองไหม เอาคนรุ่นใหม่มา เอาไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ กลับมา เอาลูก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ (ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ) กลับมา เอาลูกของพนิต วิกิตเศรษฐ์ (พรพรหม วิกิตเศรษฐ์) กลับมา ต้องเอาคนหนุ่มเหล่านี้กลับมาอยู่แถวหน้า

ผมไม่เชื่อทฤษฎีหนึ่งที่ว่า เวลาตกลงต่ำสุดแล้วจะขึ้นมาใหม่เอง ผมเชื่อว่า ต่ำสุดแล้วจะล้มหายตายจากไปเลย สักวันหนึ่งเราจะบอกเด็กรุ่นหลังว่า ครั้งหนึ่งประเทศนี้เคยมีพรรคการเมืองชื่อว่า ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคในตำนาน


ผมไม่อยากบอกว่า เคยมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตำนานที่คลาสสิก สุดท้ายพรรคนี้ก็ล้มหายตายจากไป ผมไม่อยากให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น