หมอวรงค์แถลงเปิดใจสู้จำนำข้าว ยันไม่ใช่คดีการเมือง ฝากรัฐบาลแจงต่างชาติให้เข้าใจ

“หมอวรงค์” ยันคดีจำนำข้าว ไม่ใช่คดีการเมือง ไม่ได้กลั่นแกล้ง “ปู” พร้อมสนับสนุนให้กลับมาสู้คดีเต็มที่ จี้ รัฐบาลชี้แจงคำพิพากษาประเทศที่ให้ “ยิ่งลักษณ์” พำนัก เข้าใจ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์แถลงว่า กรณีที่ผู้ที่พยายามบิดเบือนว่าคดีจำนำข้าวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องโทษจำคุก 5 ปี เป็นคดีการเมือง ว่า การดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่คดีการเมือง แต่เป็นการดำเนินคดีอาญา เพื่อเอาผิดอดีตนายกรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่อย่างใด ส่วนที่มีความพยายามบิดเบือนและทำลายกระบวนการความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ว่าได้มีการออก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาบังคับใช้กับคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ให้คดีหมดอายุความนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะแม้ไม่มีกฎหมายฉบับดังกล่าวในการยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมายฉบับเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ต้องมาแสดงตัวต่อศาลด้วยตัวเอง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปี 2542 แก้ไขเพิ่มเติม 2558 ก็กำหนดให้ชะลอการนับอายุความในระหว่างที่จำเลยหลบหนีคดี ดังนั้นขอสนับสนุนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า การดำเนินนโยบายเพื่อช่วยเหลือชาวนาไม่ใช่เรื่องผิด แต่การปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตถือเป็นความผิด ซึ่งศาลได้มีการระบุชัดเจนว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ แต่ในส่วนของขั้นตอนปลายน้ำซึ่งเป็นการระบายข้าวนั้นถือเป็นความผิดของฝ่ายบริหารที่ปล่อยปละละเลยไม่มีการระงับยับยั้งมิให้เกิดการทุจริต ซึ่งการพิจารณาของศาลถือเป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารไม่ใช่การตรวจสอบนโยบาย ศาลก็ได้มีคำพิพากษาชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

“มีข้อเสนอที่อยากฝากถึงรัฐบาล คือรัฐบาลต้องชี้แจงข้อเท็จจริงของผลคำพิพากษาของศาลแก่ประเทศที่เกี่ยวข้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปพำนักอาศัย พร้อมทั้งทำความเข้าใจแก่ประชาชนเป็นระยะๆ เพราะขณะนี้ขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรมกำลังก่อตัวขึ้น ขณะที่การดำเนินการขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ การยกเลิกพาสปอร์ต และเรื่องที่เกี่ยวข้อง ต้องดำเนินการตามกฎหมายปกติ และไม่ควรใช้มาตรา 44 โดยหลังจากชี้แจงกับประเทศผู้เกี่ยวข้องที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์พำนัก ถ้าประเทศเหล่านี้อยากได้ผู้ที่พัวพันการทุจริตให้อยู่กับเขา ก็อย่าไปเสียเวลา เพราะประเทศต้องเดินต่อไปข้างหน้า เพราะยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมาก และขอเรียกร้องให้รัฐบาลทุ่มเทเอาจริงเอาจังกับเรื่องต่อต้านการทุจริต โดยเฉพาะการทุจริตเชิงนโยบายที่เอาประชาชนมาบังหน้า มีมาตรการในการดูแลเกษตรกรบนพื้นฐานที่ไม่โกง รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ควรจะขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทย เพื่อแสดงสำนึกของความรับผิดชอบต่อความเสียหายครั้งนี้” นพ.วรงค์กล่าว

 

 

ที่มา : มติชนออนไลน์