มีโมเม้นต์!“บิ๊กตู่”ปลื้มพบ“ทรัมป์”บอกเจอแล้วเพื่อนแท้-จริงใจ คอนเฟิร์มปีหน้าประกาศวันเลือกตั้ง

US President Donald Trump and Thailand's Prime Minister Prayut Chan-o-cha shake hands during a meeting in the Oval Office of the White House on October 2, 2017 in Washington, DC. / AFP PHOTO / MANDEL NGAN

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.เวลา 18.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และภริยา พร้อมด้วยคณะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่จัดโดยสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ในการเดินทางเยือสหรัฐระหว่างวันที่ 2-4 ต.ค. ตามคำเชิญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า เป็นโอกาสใน 12 ปีที่รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีของไทย ได้มีโอกาสมาหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งการที่ตนเข้ามาก็เพื่อที่แก้ไขขจัดอุปสรรคและเดินหน้าความสัมพันธ์ที่ดีของเรากับมิตรประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐซึ่งเป็นมิตรประเทศที่ดีของเรา มีบทบาทอย่างมากทั้งในเรื่องความมั่นคง ธุรกิจและการไปมาหาสู่กันของประชาชน การค้าสมาคมของภาคธุรกิจ เอกชน
นายกฯกล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประสานสอดคล้องกันมายาวนาน ในทุกมิติ สิ่งที่ซาบซึ้งที่อยากจะบอกกับพวกเราในโอกาสแรก ต้องขอบคุณที่ได้มีการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีการจัดเลี้ยงอาหารค่ำ ด้วยบรรยากาศที่มีมิตรไมตรีต่อกัน ตนเห็นทุกโต๊ะมีรอยยิ้ม ไม่มีหน้าบึ้งใส่กันเลย

US President Donald Trump and Thailand’s Prime Minister Prayut Chan-o-cha shake hands as they take part in a meeting in the Oval Office of the White House on October 2, 2017 in Washington, DC. / AFP PHOTO / Mandel NGAN

“วันที่ผมเองได้พบกับประธานาธิบดีสหรัฐ ได้พูดแหย่เหมือนคนคุ้นเคยกัน รู้ว่าท่านเป็นคนจริงใจ พูดจาสุภาพกับผม ครั้งแรกที่ผมพบท่าน คือตอนที่พูดคุยโทรศัพท์กัน ท่านพูดด้วยวาจาที่ไพเราะ ทำให้ผมได้รู้สึกว่า ผมจะได้พบเพื่อนของผมอีกคน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมมาครั้งนี้เพราะท่านได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ แล้วมีอะไรท่านก็พูดกับผม ก่อนหน้าที่จะได้พบกัน ได้ส่ง รมว.พาณิชย์สหรัฐมาพบกับผมก่อนที่ประเทศไทย ท่านมาพบด้วยรอยยิ้ม และคำพูดที่ฟังดูแล้วน่าชื่นใจ เมื่อท่านกลับไปแล้ว มีคนบอกว่า รมว.พาณิชย์เริ่มรักประเทศไทยแล้ว แสดงว่าก่อนมาประเทศไทยยังสงสัย ยังไม่แน่ใจ แต่วันนี้ต้องแน่ใจ เพราะตนรักคนไทย รักคนอเมริกา” นายกฯกล่าว และว่า คนไทยคุ้นเคยกับสหรัฐมากที่สุด ถนนเส้นทางแรกคือถนนสายมิตรภาพ เป็นถนนเส้นที่ดีที่สุด ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยรวมร่วมมือกับสหรัฐ ในการสร้างถนนที่มีความเรียบ และรออยู่ว่าจะมีการสร้างเส้นที่ 2 เส้นที่ 3 หรือไม่

US President Donald Trump and Thailand’s Prime Minister Prayut Chan-o-cha take part in a meeting in the Oval Office of the White House on October 2, 2017 in Washington, DC. / AFP PHOTO / Mandel NGAN

นายกฯกล่าวว่า คิดว่าเราต้องสร้างทุกอย่างไปด้วยกัน เราไม่อยากเป็นภาระให้กับใครอีก แต่สิ่งเหล่านี้จะแข็งแรงขึ้นมาได้ ด้วยเพื่อนของเรา ทำอย่างไรให้สนธิสัญญาเหล่านั้นมีผลในการเดินหน้าไปด้วยกัน ตนเป็นประเทศเล็ก แต่เสียงจะดังหน่อย เพราะพูดเสียงดัง เพราะฉะนั้นประเทศเล็กๆ ต้องพูดเสียงดัง ไม่อย่างนั้นประเทศใหญ่ๆ จะไม่ได้ยิน ตนคิดว่าอเมริกาได้ยินตน ว่าตนเข้ามาเพื่ออะไร เข้ามาทำหน้าที่อะไร และตนสร้างทุกอย่างให้ดีขึ้นได้อย่างไร หน้าที่ของตนคือแก้ทุกอย่างที่เป็นปัญหา ความขัดแย้ง โลกร้อน เป็นปัญหามหาศาลที่เราต้องแก้ต่อไป

นายกฯกล่าวว่า วันนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในการแก้ปัญหาเพื่อโลกใบนี้ โลกที่เรามีความเชื่อมต่อถึงกัน วันนี้อากาศที่สหรัฐเย็น อากาศที่เมืองไทยร้อน แต่เป็นอากาศเดียวกัน ตอนนี้ตนอยู่อเมริกาก็ได้กลิ่นประเทศไทย เหมือนกับตอนที่ตนอยู่เมืองไทยก็ได้กลิ่นอเมริกา เพราะเราอยู่ในโลกใบเดียวกัน ไม่ว่าใครจะทุกข์เราก็ทุกข์ด้วย ใครจะสุขก็สุขด้วย มีเหตุการณ์อะไรเราก็ทุกข์แสดงความเศร้าโศกไปพร้อมกัน นี้แหละคือโลกของเรา และถึงแม้ประเทศไทยถึงแม้จะเล็กนิดเดียว แต่ตนถือว่าเป็นความรับผิดชอบที่คนไทยทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้

นายกฯกล่าวว่า ในส่วนของการเยือนสหรัฐในครั้งนี้ ตนอยากกล่าวว่า มีความสุขกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะตนมีความรู้สึกว่าได้พบเพื่อนที่แท้จริงแล้ว ที่ผ่านมาทุกครั้งก็อาจจะเป็นแค่การประชุมร่วม เป็นการสัมมนาต่างๆ ตนก็มีโอกาสแสดงความคิดเห็นหลายประการ แต่มาครั้งนี้เป็นการเอาประเทศไทยมาด้วย เพราะว่าเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ และตนก็ได้รับเกียรติจากสหรัฐ และภาคธุรกิจเอกชนสหรัฐ อย่างอบอุ่น เป็นสิ่งที่ตนประทับไว้ในความทรงใจ และเป็นประวัติศาสตร์ของตน สิ่งที่ตนได้พบกับท่านประธานาธิบดีทรัมป์ เราก็ได้พูดถึงประเด็นความมั่นคงว่า เราจะรับผิดชอบดูแลความมั่นคงในภูมิภาคนี้อย่างไร ร่วมมือกันมากขึ้นในหน่วยงานที่รับผิดชอบไปด้วยกัน ทั้งในภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ อีกด้วย เพราะได้ร่วมสมรภูมิรบกับสหรัฐอเมริกามายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นสงครามเวียดนาม เกาหลี จนถึงปัจจุบัน หรือในการช่วยเหลือดูแลพื้นที่อยู่ในการดูแลของสหประชาชาติ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดเตรียมกำลังไปที่ซูดานใต้อีกครั้ง ถือเป็นเพื่อนร่วมรบกันมา

สำหรับด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างกัน ซึ่งในความคิดของตนคือเรามาลงทุนในสหรัฐและสหรัฐก็ลงทุนในบ้านเรา วันนี้สหรัฐหลายร้อยหลายพันบริษัทได้มาลงทุนในไทย มีมูลค่าสูง สามารถทำรายได้ส่วนหนึ่งให้กับประเทศไทย และส่วนหนึ่งเป็นรายได้กลับประเทศสหรัฐ ส่วนประเทศไทยก็มีการลงทุนของหลายสิบบริษัทใหญ่ๆ และบริษัทเล็กๆ จำหน่วยหนึ่งหนึ่งในสหรัฐ แต่ไม่เท่ากับบริษัทสหรัฐที่มาลงทุนในไทย แต่ก็เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจหรือความรู้สึกของเราว่า ประเทศไทยอยู่คนเดียวไม่ได้ ขณะเดียวกันอยากให้สหรัฐมองประเทศไทยและอาเซียนไปด้วยกัน ทั้งหมดคือมูลค่ามหาศาล และคาดหวังสหรัฐลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซี และมีแผนโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลาหลายปี เพราะรองรับการลงทุนของท่าน และขณะเดียวกันไทยก็จะไปดูการลงทุนในสหรัฐ ร่วมกันดูว่ามีปัญหาอะไรจะได้แก้และเดินหน้าได้เร็ว เพราะเรารอเวลาไม่ได้อีกแล้ว

“ทั้งนี้ ที่ผมยังอยู่ เพื่อทำทุกอย่างเกิดขึ้นให้ได้ สิ่งที่ท่านต้องการเห็นการเป็นประชาธิปไตยมันมาแน่ ผมยืนยันในปีหน้าผมประกาศวันเลือกตั้งแน่นอน เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะต้องเกิดขึ้นในช่วงนี้ เพราะฉะนั้นจะมีปัญหาอีกในวันหน้า เพราะว่ามันต้องพูดกันต่ออีกครั้งหนึ่ง วันนี้เราพูดมา 3 ปีแล้วว่า เรามีความตั้งใจมากแค่ไหนในการแก้ไขสถานการณ์ ปัญหาต่างๆ” นายกฯกล่าว