การเมือง

ประชาธิปัตย์ โหนขบวน ปรับ ครม. “ประยุทธ์2/2” เขย่าเก้าอี้นายทุนพรรค

การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/2 โควตากลาง-หัวหน้ารัฐบาล สะเทือนไปถึงพรรคแกนนำหลัก-พลังประชารัฐ (พปชร.) และสะท้านไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล-ประชาธิปัตย์ (ปชป.)

แม้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” กัปตันทีมพรรคสีฟ้า ยืนยันโควตาพรรค “ยึดผู้เล่นตัวหลัก” 7 รัฐมนตรี “ไม่เปลี่ยนแท็คติก” ขายนโยบายประกันรายได้สินค้าเกษตร-รัฐสวัสดิการผู้ด้อยโอกาส

ทว่ายังมี “กองเชียร์-กองแช่ง” ข้างสนาม ส่งรายชื่อ “ตัวสำรอง” ออกมา “วอร์มอัพ” กดดันให้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นตัวจริงที่ “โชว์ฟอร์มไม่ออก”

โดยเฉพาะรัฐมนตรีเสมา 2 – คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ถูกเขย่าเก้าอี้ “กระทรวงครู” อย่างหนัก โดยมีชื่อ “ตั๊น-จิตภัสร์ กฤษดากร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ “ชูขึ้นมาเชือด” และอาจหลุดทุกโผ-ซ้ำรอย “โฆษกบิ๊กอาย”

รวมถึงโควตาภาคใต้ – ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ถูกเขย่ม-เขย่าอย่างแรง เพราะมีตัวแทนจากโควตาปักษ์ใต้ – สงขลา นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีถึง 2 คน อีกคนคือ “นิพนธ์ บุญญามณี” รองเลขาธิการพรรค-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ขณะที่โควตาภาคเหนือ-จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ถูกแซะเก้าอี้-ปรากฏภาพ “แม่เลี้ยงติ๊ก” ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู มุดทำเนียบฯ – หม่ำข้าวคาว-หวาน โดยมี “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี-ศิษย์เก่าประชาธิปัตย์เป็น “ข้อต่อ”

ว่าด้วย “ตระกูลโสภณพนิช” ถือเป็น “นายทุนพรรค” ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของพรรคประชาธิปัตย์ เก้าอีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงเป็น “โควตาเก้าอี้นายทุน” ยากที่ใครจะฉุด “คุณหญิงกัลยา” ตกจากเก้าอี้เสมา 2 ได้

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข้อมูลการบริจาค (เงิน) แก่พรรคการเมือง ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป หลังนักการเมืองถูกแช่แข็ง – หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 “ตระกูลโสภณพนิช” บริจาคเงินให้ประชาธิปัตย์ “เสมอต้นเสมอปลาย”

คุณหญิงกัลยา – เงินบริจาคประจำเดือนเมษายน 2563 รับบริจาควันที่ 10  เมษายน 2563 จำนวน 2,000,000 บาท รับบริจาควันที่ 14 เมษายน 2563 จำนวน 1,000,000 บาท

ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รับบริจาควันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 5,000,000 บาท รับบริจาควันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 1,000,000 บาท

ประจำเดือนมกราคม 2562 รับบริจาควันที่ 2 มกราคม 2562 จำนวน 4,000,000 บาท ประจำเดือนตุลาคม 2561 รับบริจาควันที่ 19 ตุลาคม 2561 จำนวน 1,500,000 บาท .

ประจำเดือนกันยายน 2561 รับบริจาควันที่ 17 กันยายน 2561 จำนวน 1,500,000 บาท ประจำเดือนสิงหาคม 2561 รับบริจาควันที่ 20 สิงหาคม 2561 จำนวน 1,000,000 บาท

ประจำเดือนมีนาคม 2561 รับบริจาควันที่ 5 มีนาคม 2561 จำนวน 2,000,000 บาท ประจำเดือนมิถุนายน 2560 รับบริจาควันที่ 26 มิถุนายน 2560 จำนวน 1,900,000 บาท

นายโชติ โสภณพนิช-คู่สมรส “คุณหญิงกัลยา” เงินบริจาคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รับบริจาควันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 10,000,000 บาท เงินบริจาคประจำเดือนธันวาคม 2561 รับบริจาควันที่ 28 ธันวาคม 2561 จำนวน 10,000,000 บาท

“รัชดา ธนาดิเรก” กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงกระแสการปรับครม.ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ต้องยืนยันตามหัวหน้าพรรค ว่า “ไม่ปรับ” ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เมื่อรัฐบาลทำงานครบรอบ 1 ปีก็จะมีการพูดถึงการปรับครม. และการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรีภายในพรรคของทุกพรรค แต่ไม่ได้แปลว่าต้องขัดแย้งกันภายในพรรค

“คนที่เป็นรัฐมนตรีของพรรคหลายท่านไม่ได้เป็นนายทุนพรรค เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่คนในพรรคและคนนอกพรรคยอมรับในฝีมือ เรื่องนายทุนไม่ใช่เกณฑ์สำคัญ”

จุดยืนของพรรคเมื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหาร ต้องบริหารประเทศให้ดี ให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง กับประชาชนสูงสุด ไม่ได้วัดกันที่คนนั้นมีก๊วนใหญ่แค่ไหน วัดกันที่ความสามารถ ประชาธิปัตย์ไม่มีประวัติส่งคนที่ประชาชนไม่ยอมรับ เมื่อส่งคนไปเป็นรัฐมนตรีแล้ว ผลงานต้องเป็นที่ยอมรับ เพราะพรรคมีการติดตามการทำงาน

อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประชาชนอาจไม่รับทราบผลงานของรัฐมนตรีบางท่าน เพราะไม่ได้รับมอบหมายงานที่ใหญ่ที่สุด หรือ งานที่ประชาชนสนใจ แต่คนในพรรคทราบดีว่า ใครทำอะไร และการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เพราะไม่มีฝีมือ แต่เป็นการให้โอกาสคนที่มีฝีมือเหมือนกัน และประชาธิปัตย์ก็มีคนเก่ง ๆ มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก

“การบริหารต้องใช้เวลา หลายเรื่องเป็นปัญหาสะสม คนเข้าไปบริหารไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยระยะเวลาอันสั้น ไม่เหมือนการลดน้ำหนัก 1 เดือน 2 เดือนแล้วเห็นผล การบริหารบางเรื่องเป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เปลี่ยนแปลงทัศนคติภายในองค์กร ของคนในสังคมต้องใช้เวลา”

ส่วนการเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงอดีต ส.ส.- ส.ส. รัฐมนตรีของคุณหญิงกัลยา เป็นงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว และเป็นไปตามคิวของรัฐมนตรีที่ต้องเป็นภาพจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ของพรรคทุก 1 เดือน ไม่มีนัยทางการเมืองเกี่ยวกับกระแสข่าวการถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงของพรรคของนายถาวรก่อนหน้า

“หลักการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าจะเปลี่ยนต้องดีเสมอตัว หรือ ต้องดีขึ้นในทุก ๆ มิติ ถ้าเปลี่ยนต้องดีกว่าเดิม หรือ ดีขึ้น ไม่แย่กว่าเดิม”