การเมือง

“ตู่-ทรัมป์”สักขีพยาน MOU ปตท.-จ๊อบส์โอไฮโอเชื่อมลงทุนไทย-สหรัฐ

บิ๊กตู่จับมือทรัมป์ยกสนธิสัญญาไมตรีฯหนุนการค้า-การลงทุน 2 ฝ่าย พร้อมเป็นสักขีพยานการลงทุนของฝ่ายไทยในโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ของ ปตท.ที่โอไฮโอ เซ็น MOU ยกระดับคุณภาพชีวิตในเขตเบลมอนต์ที่โรงงานตั้งอยู่ ขณะที่ทรัมป์โปรยยาหอมพร้อมซื้อของไทยมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ไทยควรซื้อสินค้าอเมริกาเพิ่มอีกนิดก็ยังดี

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้หารือร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่า ไทยและสหรัฐต่างมีนโยบายและแนวทางเดียวกัน คือการให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย โดยนโยบาย America First ของประธานาธิบดีทรัมป์ก็สอดคล้องและเชื่อมโยงกับนโยบาย Thailand 4.0 ของไทยที่ดำเนินการเพื่อให้ชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนอย่างเท่าเทียมและครอบคลุม

“เรื่องการเมืองนั้น เรามาในฐานะนี้ เขาก็ต้อนรับให้เกียรติเราขนาดนี้ โดยผมได้พูดกับประธานาธิบดีสหรัฐว่า ในการเดินหน้าตามหลักประชาธิปไตยสากลนั้นจะเป็นไปตามโรดแมป ในปีหน้าไทยจะประกาศวันเลือกตั้งออกมา โดยไม่มีการเลื่อนใด ๆ ทั้งสิ้น

เชิญลูกสาวทรัมป์มาไทย

ในการหารือเต็มคณะ นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยถึงประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ด้านความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสหรัฐได้เห็นพ้องร่วมกันว่า เป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศและมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก มีตัวอย่างความร่วมมือที่ดี ได้แก่ การฝึกซ้อม Cobra Gold

พร้อมกันนี้ไทยและสหรัฐจะขยายความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญนาง Ivanka Trump บุตรสาวประธานาธิบดีสหรัฐที่มีความสนใจและมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ เยือนไทยเพื่อดูงานและความพยายามของรัฐบาลในการแก้ปัญหา

ด้านความร่วมมือเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในประเด็นต่าง ๆ เช่น สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันดำเนินการตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) และสนับสนุนให้เกาหลีเหนือเข้าสู่การเจรจา

ด้านการค้าและการลงทุนตามสนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ปี ค.ศ. 1966 ทำให้นักธุรกิจอเมริกันได้ประโยชน์เหมือนคนไทยในการลงทุนที่ประเทศไทย พร้อมทั้งร่วมผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างกันให้สูงขึ้นโดยกลไกที่มีอยู่ พร้อมตั้งกลไกใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนหากมีปัญหาติดขัด โดยขณะนี้ นักลงทุนไทยมีการลงทุนในสหรัฐทั้งหมด 23 บริษัท มีมูลค่าการลงทุนรวม 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีแผนเพิ่มการลงทุนอีกรวม 6,000 ล้านเหรียญ จะสามารถสร้างงานได้มากกว่า 8,000 ตำแหน่ง ฝ่ายไทยจึงขอให้สหรัฐได้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยและให้เปิดตลาดสินค้าเกษตรแก่ไทยมากขึ้น

PTTGC จับมือ JobsOhio

ภายหลังการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและประธานาธิบดีสหรัฐสิ้นสุดลง ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท PTTGC America LLC กับหน่วยงาน JobsOhio ว่าด้วยความร่วมมือในการศึกษา วางแผน และจัดทำโครงการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่เขตเบลมอนต์ (Belmont County) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานปิโตรเคมีของกลุ่ม ปตท.

โดยเป็นการลงนาม MOU ระหว่างนายทศพร บุณยพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท PTTGC America LLC. กับ Mr. John Minor President and Chief Investment Of-ficer, JobsOhio

หวังขายสินค้าให้ไทยเพิ่มอีกนิด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เว็บไซต์ทำเนียบขาวสหรัฐอเมริกา (www.whitehouse.gov) เผยแพร่คำกล่าวปราศรัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและนายกรัฐมนตรีไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนการประชุมทวิภาคีระหว่าง 2 ฝ่าย

โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงความสัมพันธ์ด้านการค้าว่า ที่ผ่านมาได้เจรจาต่อรองกันมาเป็นเวลานานและยากลำบาก ซึ่งในการประชุมร่วมทวิภาคีก็จะทำให้การเจรจาดำเนินต่อไปและคาดหวังว่า ความสัมพันธ์ด้านการค้าของ 2 ประเทศจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้นและยิ่งขึ้น และไทยเป็นประเทศที่ดีที่จะทำการค้าด้วย โดยไทยผลิตสินค้าหลากหลายที่มีความสำคัญต่อสหรัฐ ขณะเดียวกันสหรัฐก็ได้ขายสินค้าให้ไทยด้วยและพยายามจะขายสินค้าให้ประเทศไทยมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ “มากขึ้นอีกนิดถ้าเป็นไปได้”

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า ประเทศไทยต้องใช้โอกาสนี้ในการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อและครอบครัวของเหยื่อในเหตุการณ์กราดยิงที่ลาสเวกัสเมื่อคืนที่ผ่านมา และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวในสหรัฐและเปอร์โตริโกที่ได้รับผลกระทบจากเฮอริเคน รัฐบาลไทยและภาคเอกชนให้คำมั่นสัญญาว่า จะให้ความช่วยเหลือในด้านการเงิน และขอให้ท่านประธานาธิบดีประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้