คนไทยในสหรัฐ เชียร์ ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯต่อ ย้ำปี 61 ประกาศวันเลือกตั้ง

คนไทยในสหรัฐ เชียร์ ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯต่อ ปลื้ม ‘ทรัมป์’ มีเคมี ตรงกัน ย้ำปี 61 ประกาศวันเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม หรือ เวลา 09.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น ประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ได้พบปะพร้อมกล่าวกับชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาที่มาให้การต้อนรับ ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมกันสมัครเป็นจิตอาสา เพื่อทำประโยชน์ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมเปิดใจกรณีถูกวิจารณ์ ว่าไม่ได้ยืนพรมแดง ขณะผู้นำสหรัฐให้การต้อนรับที่ด้านหน้าทำเนียบขาว ระบุไม่เคยสนใจว่าจะยืนบนพรมหรือไม่ หากผู้นำสหรัฐไม่ต้อนรับ คงจะไม่เดินมารอรับตั้งแต่หน้าประตูรถ และการที่ได้มายืนที่ทำเนียบขาว ถือเป็นเกียรติของประเทศไทยแล้ว ขนาดรัฐบาลที่แล้วยังไม่ได้รับเชิญ พร้อมกันนี้ ได้กล่าวแสดงความชื่นชมผู้นำสหรัฐ แม้จะมีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์บุคลิก ซึ่งส่วนตัวมองว่าอาจจะดูเป็นนักเลงพอสมควร แต่ก็มีเคมีบางอย่างที่ตรงกัน เช่น อาจพูดจาไม่เข้าหู หรือ มีอารมณ์ร้อน และ มีความเห็นพ้องกันว่า ทั้ง 2 คนต่างเป็นผู้นําที่ถูกสื่อสังคมออนไลน์เล่นงานอย่างหนักหน่วงเช่นเดียวกัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า จะมีการประกาศวันเลือกตั้งในปี 2561 ตามโรดแมป หลังกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2561 จากนั้นจะมีเวลานำขึ้นทูลเกล้าฯ อีก 90 วัน และต้องดูด้วยว่ากฎหมายดังกล่าว ให้เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อใด และ ยังต้องใช้เวลาอีก 150 วัน ให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม เปิดรับสมัคร ก่อนจะมีการเลือกตั้งจริง ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล โดยขอให้ผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคน เลือกผู้แทนโดยพิจารณาจากสมอง อย่างดูแต่เรื่องความสวย หรือ ความหล่อเพียงอย่างเดียว

 

ขณะเดียวกันคนไทยในสหรัฐอเมริกาที่ร่วมรับฟังอยู่ ต่างก็เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำแหน่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าพิสมัย ถ้าตนเองต้องอยู่ต่อไป ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมันต้องเป็นการเมืองแล้ว เราก็ต้องอยู่ ต้องทำให้ได้ ถ้าประชาชนอยากให้เข้าไป ก็มีอยู่ทางเดียวตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่เคยคิดสืบทอดอำนาจ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่เหลือเวลาอีก 4 เดือนจะเกษียณอายุราชการ ต้องมาทำรัฐประหาร เพราะถูกด่าทอว่าไม่ดูแลประเทศชาติ และส่วนตัวก็ทนไม่ได้กับพฤติกรรมร้ายๆ หลายอย่าง ทั้งชี้แจง และยืนยันความบริสุทธิ์ใจในการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ว่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ ส่วนใหญ่ที่ต้องถูกกล่าวหา เพราะต้องออกมาเผชิญหน้ากับหลายปัญหาแทนนายกรัฐมนตรี จึงขอให้ทุกคนอย่าขาดความเชื่อมั่นในคณะรัฐมนตรีทุกคนของรัฐบาลนี้ เมื่อคนไทยในสหรัฐถามย้ำว่า ทำอย่างไรจะให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งได้ยาวนาน นายกรัฐมนตรี กลับตอบเพียงว่า ตอนนี้ไม่สามารถพูดได้ เดี๋ยวคอยดู ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ได้รับทราบว่า มีคนไทยในสหรัฐ เคยไปกดดันการประชุมที่มีการจัดขึ้นอย่างไม่เหมาะสมในหลายครั้ง ก็ขออย่านำไปสู่การใช้ความรุนแรงหรือ ลงไปประท้วงบนถนนกันอีก เพราะคนไทยส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่มีผู้นำซึ่งมีแค่ 2 แบบ คือ ดีและเลว เป็นผู้ฝังชิปความเชื่อให้กับคนเหล่านั้น ซึ่งต้องหาทางที่จะทำอย่างไร เพื่อจะถอดชิปความคิดไม่ดีเช่นนั้นออก พร้อมทั้งยกคำสอนของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ให้ทำความดีหรือเติมความรัก ให้กับคนที่เกลียดชังหรือคนที่ไม่ดี เพื่อดึงกลับมาให้เป็นคนดี แต่สำหรับบางคนกลับกลายเป็นว่า ยิ่งเติมก็ยิ่งต่ำ

 


ที่มา มติชนออนไลน์