ยื่นคำขาด “ประชาชนปลดแอก” ขีดเส้นตายกันยาฯ รัฐบาลต้องยุบสภา

วันที่ 16 สิงหาคม 2563 การยกระดับชุมนุมของกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” มาสู่ “ประชาชนปลดแอก” จากผู้ชุมนุมหลักพัน กลายเป็นเรือนหมื่น

ตั้งแต่อนุสารีย์ประชาธิปไตย ยาวไปจนถึงสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน บน 3 ข้อเรียกร้องหลัก 1 หยุดคุกคามประขาชน 2.แก้รัฐธรรมนูญ 3.ยุบสภา เป็นเงื่อนไขหลักในการชุมนุมครั้งนี้

“ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี” หรือ “ฟอร์ด” เลขาธิการคณะประชาขนปลดแอก ให้สัมภาษณ์หลังเวทีว่า จากการประเมินโดยนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ที่ร่วมชุมนุม – คำนวณจากพื้นที่

ซึ่งมีคนมาชุมนุมเต็มพื้นที่ตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนถึงสี่แยกคอกวัว คาดว่ามีคนมาร่มการชุมนุมไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน ยกระดับจากการชุมนุมเมื่อ 8 สิงหาคม 2563 ที่มีผู้ชุมนุมประมาณ 8 พันคน นับว่าเป็นการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมสูงสุด นับตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2557

“ฟอร์ด” บอกว่า การชุมนุมวันนี้ได้รับการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ไม่มีการคุกคามแต่อย่างใด

เป็นการสะท้อนว่ามีคนที่ไม่พอใจจากการบริหารงานของรัฐบาล

ฟอร์ด ปฏิเสธว่า เขาไม่ได้ร่วมชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 10 สิงหาคม 2563 บนเวที #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน จนถูกวิจารณ์ว่าเป็นการชุมนุมที่ “เลยธง”

เขาจึงย้ำจุดยืนอีกครั้ง ใน 3 ข้อเรียกร้อง 1. รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชน ที่ออกมาใช้สิทธิและเสรีภาพตามหลักการประชาธิปไตย ดังนั้น รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจ ไม่ใช่บอกว่าหยุดคุกคาม แต่ยังจับกุมแกนนำนักศึกษา

2. รัฐบาลต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนอย่างแท้จริง และให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ร่างรัฐธรรมนูญที่ประชาชนมีส่วนร่วม

จากนั้น 3. รัฐบาลต้องยุบสภา ภายใต้ “กติกาที่เป็นธรรม” เพื่อเป็นการเปิดให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกผู้แทนของตนได้อย่างแท้จริง

และ 2 จุดยืน 1.ต้องไม่มีการรัฐประหาร 2.ต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และอีก 1.ความฝัน ที่ต้องการให้มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ซึ่งข้อเสนอของเราไม่ได้ล้มเจ้า และเราไม่ใช่พวกล้มเจ้า

เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องครั้งนี้ ต้องอาศัย “มือ” ของ “นักการเมือง” ยังมีความหวังในตัวนักการเมืองหรือไม่ “ฟอร์ด” ยอมรับว่า ยังต้องหวังนักการเมือง เขาอาจไม่ได้เข้าใจข้อเรียกร้องของเราในเบื้องต้น แต่หลังจากวันนี้จำนวนคน และกิจกรรมการเคลื่อนไหวของเราจะส่งแรงกดดันไปยัง “นักการเมือง” มากขึ้น และเชื่อว่า “นักการเมือง” จะทำตามข้อเรียกร้องของเราบ้าง

“ฟอร์ด” ยื่นเส้นตายรัฐบาล – รัฐสภา ต้องนำข้อเรียกร้องของเราไปปฏิบัติ เริ่มต้นจากแสดงความจริงใจในการ “หยุดคุกคามประชาชน” แก้รัฐธรรมนูญ และยุบสภา

หากไม่มีความคืบหน้า “คณะประชาชนปลดแอก” จะยกระดับการชุมนุม และมีเส้นตายให้รัฐบาลทำตามภายในเดือน “กันยายน”

แต่จะยกระดับการชุมนุมเป็นแบบไหน หากรัฐบาลยังเพิกเฉย “ฟอร์ด” ขออุบไว้ก่อน และให้ติดตามที่เพจเฟบุ๊กของคณะประชาชนปลดแอก

ขณะที่นายอานนท์ นำภา กล่าวว่า เห็นผู้ชุมนุมมาเข้าร่วมจำนวนมาก ถือเป็นกำลังใจที่ดีเพราะแสดงว่าคนเริ่มเข้าใจจุดยืนที่ออกมาเรียกร้องของกลุ่ม การมาร่มเวทีปราศรัยในวันนี้ไม่เกรงว่าจะผิดเงื่อนไขการประกันตัว เพราะเงื่อนไขห้ามชุมนุมโดยไม่สงบยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย แต่เชื่อว่าการชุมนุมในวันนี้เป็นไปอย่างสงบ

ทนายอานนท์ เปรียบเทียบการชุมนุมทางการเมืองของเมืองไทยในรอบ 10 ปี หลัง ทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ รวมถึง กปปส. ว่า

การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมระหว่าง 2 เจเนอเรชั่น เพราะการชุมนุมทางการเมืองทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดงนักศึกษาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่มีนักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และยังมีป้าๆ เสื้อแดงก็เข้ามาร่วมชุมนุมกับเราด้วย

ระหว่างการให้สัมภาษณ์ มีคำถามจากผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า การยกระดับการชุมนุมของนักศึกษา มีจัดเวที แสง สี เสียง ครบครัน มีท่อน้ำเลี้ยงอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทนายอานนท์ ยืนยันว่า ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง

“นักศึกษาพวกนี้เป็นนักจัดกิจกรรมอยู่แล้ว และจัดเวทีกันเก่งมาก เพราะในมหาวิทยาลัย เขาก็จัดเวทีคอนเสิร์ต จัดการรับน้องใหม่ ส่วนเงินก็มาจากการบริจาค ที่สามารถตรวจสอบได้”

หากรัฐบาลไม่ตอบสนองข้อเรียกร้อง เราอาจจะได้เห็นการยกระดับของประชาชนปลดแอก!