ประยุทธ์ ปลดล็อก รับซื้อเรือประมง ปล่อยซอฟต์โลนหมื่นล้าน

“รัฐบาลบิ๊กตู่” ไม่นิ่งนอนใจ แก้ปัญหาชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากการออกระเบียบไอยูยู จ่ายครบเรือนอกระบบ (เรือขาว-แดง) 53 ลำ ตุลาคม เตรียมเสนอแก้กม.ประมงพื้นบ้าน-ประมงพาณิชย์ต่อคกก.นโยบายประมงแห่งชาติเร็วนี้

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข้อเรียกร้องของสมาคมประมงให้มีการแก้ไขกฏระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพประมง สืบเนื่องจากที่รัฐบาลได้ออกกฏระเบียบเพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (Illegal) การประมงที่ขาดการรายงาน (Unreported ) และการประมงที่ขาดการควบคุม (Unreglulated) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า IUU

“ทั้งนี้ ขอเรียนให้พี่น้องชาวประมงทราบว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการแก้ปัญหาผลกระทบดังกล่าว มีการดำเนินการไปแล้วในหลายด้าน อาทิ การแก้ไขกฎระเบียบ การรับซื้อเรือที่ได้รับผลกระทบจากระเบียบใหม่ การเสริมสภาพคล่อง โดยมีพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ทำหน้าที่กำกับดูแลการทำงานของกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง และรายงานความก้าวหน้าแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้เรื่องการแก้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ และเน้นย้ำให้การทำงานต้องเป็นไปอย่างรอบคอบไม่เสี่ยงต่อการถูกใบเหลืองจากสหภาพยุโรป อีกทั้งต้องควบคู่ไปกับการรับฟังเสียงชาวประมงด้วย”

น.ส.รัชดากล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมประมงได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้เหมาะสมเพื่อผ่อนปรนและช่วยเหลือชาวประมง กว่า 12 เรื่อง อาทิ การแก้ไขรายการเครื่องมือทำการประมง การแก้ไขรายการพื้นที่ทำการประมง การออกหนังสือคนประจำเรือ 2 รอบเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคนแรงงาน ส่วนการพัฒนาปรับปรุงระบบติดตามเรือให้มีประสิทธิภาพ ลดความยุ่งยากในการแจ้งเข้า-แจ้งออกของเรือประมงที่อยู่ในร่องน้ำเดียวกันอยู่ระหว่างดำเนินการ

“สำหรับการแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับประมงพื้นบ้าน 3 มาตรา และประมงพาณิชย์ 15 มาตรา ต้องเป็นไปตามขั้นตอนการปรับปรุงกฎหมายที่ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ โดยผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย ก่อนที่จะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ”

น.ส.รัชดากล่าวว่า สำหรับการรับซื้อเรือประมงออกนอกระบบ การดำเนินการได้แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มระยะเร่งด่วน (เรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายประมง (เรือขาว-แดง)) มี 568 ลำ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ครบถ้วนแล้ว 252 ลำ และ อีก 53 ลำ จะจ่ายครบถ้วนในเดือนตุลาคมนี้ คิดเป็นเงินเยียวยารวม 764.45 ล้านบาท ที่เหลือ 263 ลำ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ

ส่วนกลุ่มที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมง แต่เจ้าของเรือมีความประสงค์นำออกนอกระบบจำนวน 2,505 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาหลักเกณฑ์ ในการนำออกนอกระบบให้สอดคล้องกับความสามารถในการทำการประมงของเรือประมง ซึ่งรัฐบาลจะรับไปพิจารณาในลำดับต่อไป

น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง จะได้มีเงินทุนในการปรับปรุงเรือ ติดตั้งอุปกรณ์ และจ้างแรงงานให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด รัฐบาลได้อนุมัติโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่านทางธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงินสินเชื่อรวม 10,300 ล้านบาท

“อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการประมงทั้งพื้นบ้านและพาณิชย์ เห็นว่ามีประเด็นใดที่ไม่คืบหน้าหรือยังคงเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรีพร้อมรับฟัง เพื่อหาทางออกร่วมกันในแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งชาวประมงและภาคการประมงของประเทศ”