“จาตุรนต์” ชี้ “บิ๊กตู่” เยือนสหรัฐฯแค่การหยิบฉวยมิตรภาพจากมหาอำนาจที่ไม่สนใจปชต.

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟซบุ๊ก ว่า ใครได้ ใครเสียจากคำแถลงร่วมสหรัฐฯ-ไทย การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ มีนัยทางการเมือง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับวันเวลาที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะมีในปี 2562 หรืออย่างเร็วก็ปี 2562 ซึ่งไม่ตรงกับคำแถลงร่วมสหรัฐฯ – ไทย นอกจากเรื่องโรดแมปเลือกตั้งยังมีข้อความในคำแถลง ข้อ 8 ที่ไม่เป็นความจริง คือผู้นำทั้งสองยังได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานทั้งหลาย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญในการให้ความคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานทั้งหลาย เพราะสิ่งที่ทำมาตลอด 3 ปีกว่าฟ้องอย่างนั้น และขณะนี้ยังคงคำสั่งต่างๆ รวมทั้งใช้อำนาจที่มีอยู่อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของท่านสั่งการที่เป็นการจำกัดและละเมิดสิทธิสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานอยู่เป็นประจำและยังจะทำต่อไป

นายจาตุรนต์ ระบุว่า นอกจากนั้นเรื่องเกี่ยวกับทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี ไทยไม่อยู่ในความขัดแย้งโดยตรง การมีข้อตกลงกับใคร ต้องสนใจว่า ประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศที่มีข้อพิพาทกันอยู่จะคิดอย่างไรกับเรา และประเทศไทยไม่ควรจะทำอะไรที่เกินกว่าความเป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องไปเผชิญหน้ากับใครโดยไม่จำเป็น และการพบกันครั้งนี้เรื่องการค้าและการลงทุนไม่ค่อยมีความหวังสำหรับไทย เพราะเป็นการพบและหารือกันในช่วงที่ผู้นำสหรัฐฯกำลังหาทางให้นักลงทุนสหรัฐฯกลับไปลงทุนในประเทศเพื่อลดการขาดดุลการค้าดังนั้นหากข่าวรัฐบาลไทยพยายามซื้ออาวุธจากสหรัฐฯเป็นจริง ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าจะมีการค้ากันมากขึ้นหมายถึงอะไร โดยภาพรวมการเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจเป็นเรื่องดี แต่การพบกันในขณะที่ผู้นำสหรัฐฯมีนโยบายที่เน้นประโยชน์ของประเทศตนมาก่อน และต้องการมีบทบาทในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ไทยต้องระวังเรื่องการวางตัว ขณะที่รัฐบาลไทยอยู่ในสภาพเสียสมดุลเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ รัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจกลัวโดนโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก เมื่อประเทศตะวันตกไม่นิยมชมชอบการรัฐประหาร จึงรีบหยิบฉวยเอามิตรภาพจากมหาอำนาจที่ไม่เห็นว่าประชาธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญ ไม่คำนึงว่าจะต้องยกสิทธิประโยชน์อะไรให้แก่เขาบ้าง จนทำให้เสียสมดุล พอมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯยื่นมือมาให้จับ ถึงแม้อาจจะทำให้ปัญหาความไม่สมดุลกับต่างประเทศดีขึ้น แต่แทนที่ประเทศไทยอาจไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าไหร่และยังมีเรื่องที่สังคมไทยต้องสนใจติดตามเพื่อป้องกันผลเสียที่อาจตามมาด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์