“สันติ” แจงปม ต่อสัมปทาน “รถไฟฟ้าสายสีเขียว”

รถไฟฟ้าสายสีเขียว เปิดเพิ่ม 4 สถานี

สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ตอบข้อซักถาม การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปรับค่าโดยสาร เป็น 65 บาท ตลอดสาย จาก 150 บาท ลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง

วันที่ 9 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงายว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองโดยไม่มีการลงมติ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นตอบกรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า บริษัทบีทีเอสได้สัมปทานช่วงบางนาถึงสยาม จากนั้นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทน (รฟม.) มีโครงการส่วนต่อขยายจากบางนาไปสมุทรปราการไปบางปู และจากเซนทรัลไปคูคต

จากนั้นบริษัทบีทีเอสและ รฟม. เกิดข้อท้วงติงว่า เมื่อรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็น 3 ตอน สร้างความยากลำบากให้กับประชาน จึงมีแนวคิดของ รฟม.และ กทม.เจ้าของสัมปทาน เพื่อหารือถึงความยากลำบากของประชาชน

ขณะเดียวกันถ้าเป็น 3 ตอน ประชาชนต้องเสียค่าแรกเข้า 3 ครั้ง รวมเกิน 150 บาท ซึ่งแพงมหาโหด ด้วยเห็นความเด็ดร้อนประชาชน จึงได้หารือจะร่วมทุนกันได้อย่างไรเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากคูคตไปบางนาถูกลงตลอดสาย

“จึงตกลงร่วมทุนเดินรถและสรุปค่าโดยสายจาก 150 บาทตลอดสาย เป็น 65 บาทตลอดสาย ถูกกว่าเดิม 2 เท่า และที่สำคัญไม่ต้องขึ้นๆ ลงๆ ต่อรถ สร้างความสะดวกให้ประชาชน กทม.จึงมีเงื่อนไขเมื่อรวมกันแล้ว รฟม.จ่ายค่าก่อสร้าง 7 หมื่นกว่าล้าน ถ้าบริหารขัดข้องและค่าใช้จ่ายสูง ก็จะทำให้บริหารอย่างเป็นเอกเทศ ซึ่งกทม.เจรจากับบีทีเอส เพื่อบริหารต่อไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย”

นายสันติกล่าวว่า ปรากฏว่าได้ตกลงบริหารโดยบีทีเอสบริษัทเดียว มีการร่างสัญญา ตรวจโดยอัยการสูงสุดเรียบร้อย กทม.ได้ร่างสัญญาส่งให้อัยการสูงสุดตรวจสอบ แต่นายอุตตม สาวนายน รมว.คลังขณะนั้น ก่อนลาออก 1 วัน ได้ตอบความเห็นของโครงการ ฯ ที่กทม.ได้ขออนุมัติและถามความเห็นที่กระทรวงการคลัง หลังจากตอบท่านอุตตมก็ลาออก ท่านอุตตมจึงมีหนังสือ เพื่อความถูกต้องจึงขอถอนความเห็นเพื่อให้รมว.คลังคนใหม่มีอิสระแสดงความเห็นเมื่อเข้าครม.

“เมื่อท่านอุตตมลาออกผมก็รักษาการโดยอัตโนมัติ ตรวจสอบแล้วเป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์ก็มาปรับปรุงนิดหน่อยและส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเข้าครม.ที่ผมเซ็นไปนั้น เป็นช่วงที่นายปรีดี ดาวฉาย ได้เป็นรมว.คลัง ดังนั้น หนังสือผมก็เดินทางไปครม. วันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถวายสัตย์ฯ ก็เป็นรมว.คลัง 100 เปอร์เซ็นต์ วันที่ 13 สิงหาคม 2563 มีการประชุมครม. รถไฟสายสีเขียวเข้าครม. ท่านปรีดีเห็นว่ายังไม่ได้ดูเรื่อง จึงขอไปดูหน่อย แค่นั้นเอง บัดนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ นายปรีดีดูแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) กำลังดูเพื่อความรอบคอบในร่างสัญญาและอัยการสูงสุดตรวจสอบสัญญาเรียบร้อย”

โยกงบ 64 โป๊ะท้องถิ่น 1 หมื่นล้าน

นายสันติยังตอบประเด็นผู้นำท้องถิ่นขอพบ 40 คน ได้มาร้องเรียนกับผมเหมือนกันเพราะโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจชะลอลงไปทั่วโลก เงินเก็บภาษีท้องถิ่นลดลง

“จากความจำเป็นของท้องถิ่น ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ส.ส.ผู้ทรงเกียรติได้พิจารณาได้ตัดงบประมาณออก 3.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นทางเทศบาลเดือดร้อนจากการเก็บภาษีท้องถิ่นที่ลดลง 1 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้ทางเทศบาลนำเอาไปบำรุงรักษาเทศบาล จำนวน 10,067 ล้านบาท และยังเอาไปให้กับผู้สูงอายุ 588 ล้านล้านและช่วยกระทรวงสาธารณสุขในส่วนของเจ้าหน้าที่หลายหมื่นคนที่ทำงานโควิด 4 หมื่นกว่าคน 5,000 กว่าล้าน เพื่อจ้างเจ้าหน้าที่ดูแลโควิด”

นายสันติยังได้กล่าวถึงหนี้ครัวเรือน ขณะนี้ กว่า 13.4 ล้านบาทนั้น คำว่าหนี้ครัวเรือน ต้องเข้าใจว่าเป็นหนี้ครัวเรือน ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย มีเพียง 30 % เท่านั้น แต่อีก 70 % เป็นหนี้ลงทุนของครัวเรือนเพื่อกู้ไปประกอบสัมมาอาชีพ เช่น อาชีพอิสระ ดาวน์รถปิคอัพไปทำรถพุ่มพวง ล้วนเป็นหนี้ครัวเรือนทั้งสิ้น