ประยุทธ์ แฉ มิ่งขวัญ กลางสภา เคยขอนั่งรองนายกฯ เศรษฐกิจ

ศึกสายเลือดศิษย์เก่าวัดนวลนรดิศ มิ่งขวัญ ไล่ ลาออก – ด้านประยุทธ์ แฉ เคยขอนั่งรองนายกฯ เศรษฐกิจ คราวหน้า-เต็มแล้ว

วันที่ 9 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 28 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมืองโดยไม่มีการลงมติ

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อภิปรายว่า ทำไมนายกฯ ประชุมกลุ่มทุนใหญ่ เจ้าสัวใหญ่ทำไมถึงต้องมาล้อมรอบเต็มไปหมด กรณีเหมืองทองอัครา ซึ่งมีข้อถกเถียงว่า นายกฯ เป็นหรือไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และถ้าแพ้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการ ถูกปรับ 30,000 ล้านบาท ใครจะรับผิดชอบ มีการใช้มาตรา 44 เพื่อให้เช่าที่ดินโดยไม่มีการประมูล และใช้มาตรา 44 ไปต่อสัมปทานโครงการของรัฐหรือไม่ โครงการอีอีซียอมให้ต่างชาติผ่านประเทศไทยด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูงประเทศไทยได้อะไร และยอมยกที่ดินให้ต่างชาติเช่าเกิน 90 ปีจริงหรือไม่ ประเทศไทยได้อะไร เราจะหาทางออกอย่างไร

“วันนี้ได้ยินทุกคนพูดประโยคลงท้ายให้ท่านนายกฯ ลาออก ผมพยายามตั้งคำถามและคิดแทน ผมไม่เกี่ยวอะไรกับม็อบนะ ท่านอย่ายุบสภา เพื่อแก้โจทย์ไม่ได้ สอง ท่านนายกฯต้องลาออก สาม ลาออกแล้วต้องมีคนขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญโดยอิสระ เสรี สี่ ประเทศต้องเดินต่อไป แก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ แก้รัฐธรรมนูญเสร็จค่อยยุบสภาเลือกตั้งใหม่ สิ่งสุดท้าย วันนี้ไปต่อไม่ได้แล้ว ประเทศไทยต้องคงอยู่”

ฟุ้ง ทีมกุนซือเศรษฐกิจปริญญาหางว่าว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป ก่อนอื่นเป็นเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกัน ได้มีโอกาสหารือกันในสภาวันนี้ ก็ได้รู้ว่าวิธีคิดแตกต่างกัน อะไรที่ดี ๆ ผมก็รับฟังไปเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่ารัฐบาลผม ถึงแม้ว่าผมจะไม่เก่งเศรษฐศาสตร์แบบท่าน แต่ผมก็มีทีมที่ปรึกษา มีคณะทำงานของผม มีปริญญาเป็นหางว่าวทั้งหมด ทุกคนก็มาหารือร่วมกัน

“ประเด็นแรกที่พูดกันว่า เอาเศรษฐีมาห้อมล้อมผม เขาไม่ได้บังคับอะไรผมสักเรื่องหนึ่ง เพราะผมไมได้ให้เขาบังคับ เพราะผมบอกกันเขาว่า เขาจะช่วยประเทศชาติได้อย่างไร จะดูแลลูกจ้างพนักงานเขาได้อย่างไร และมีอะไรที่เขาจะช่วยประชาชนในพื้นที่ได้บ้าง ผมไม่เคยไปร้องขออะไรจากเขา และเขาก็ร้องขออะไรจากผมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา”

แฉ มิ่งขวัญขอนั่งรองนายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงถึงเรื่องงบกลางปี 2563 วงเงิน 5 – 6 แสนล้านบาทว่า ทำให้ประชาชนสับสน เพราะไม่ใช่เงินทำหมดที่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีทั้งหมด มีเพียงเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 9.6 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างต้องเข้ารับการตรวจสอบ ต้องเข้าครม. และต้องมีแผนงาน โครงการ รายละเอียด ถึงจะอนุมัติได้ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ ใครขอมาผมก็ให้ ไม่ใช่เงินของผม ถ้าสมัยท่านให้ได้ ท่านค่อยให้ก็แล้วกัน ผมให้ไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชี้แจงว่า ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากันทั้งโลก ทั้งอาเซียน แล้วมาหาว่าผมบริหารล้มเหลว ผมพยายามประคับประคองให้ฟื้นฟูได้ ให้มีการจ้างงาน ไม่ให้มีการเลิกจ้างพนักงานเยอะแยะไปหมด ท่านต่องฟังทางนี้บ้าง ไม่ใช่ฟังทางโน้นหมด ดูหน้าเชื่อถือนะ

“ขอขอบคุณท่าน (มิ่งขวัญ) ที่เสนอในนามอดีตรองนายกรัฐมนตรี มีความรู้ดี ซึ่งท่านก็คุยกับผมมาหลายรอบแล้ว ท่านก็เคยพูดว่า ท่านพร้อมที่จะเข้ามาช่วยผมในการเป็นรองนายกรัฐมนตรี โอเคครับ ผมคงไม่รับนะครับ ผมมีครบแล้ว มีเต็มแล้ว เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ”

มิ่งขวัญ แก้เกี้ยว ไม่ไป

นายมิ่งขวัญใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ท่านนายกฯ พูดว่า ผมจะเข้าไปช่วยท่านตั้งหลายครั้งนะ ผมเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ท่านนายกฯเรียนโรงเรียนวัดนวลนรดิศ และรุ่นติดกัน เวลาคุยกัน คุยกันคนละเรื่อง

“เขาชวนผม ผมก็ไม่ไป ถ้าผมไป ผมไปแล้ว อย่าพูดให้คนเข้าใจไขว่เขว ต้องพูดสักที ไม่พูดไม่ได้ เพราะครั้งที่แล้วท่านก็พูดแบบนี้ เดี๋ยวคนเขาก็พูดว่า คนผิดหวังทั้งสภาเพราะมิ่งขวัญ เขาก็มาด่าผมกัน วันนี้ผมย้ำอีกทีนะฮะ ขออนุญาตตอบตรงพาดพิง ว่า ไม่ไป ไม่เกี่ยว จบ”