เบื้องลึก “ก้าวไกล” ล้วงคอ ส.ส.รัฐบาล ญัตติปิดสวิตช์ ส.ว.ล่ม

รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ถูกปักหมุดว่าเป็น “ใจกลาง” แห่งการสืบทอดอำนาจ เป็นบันไดขั้นแรกในปฏิบัติการล้างบาง-ปิดสวิตช์ ส.ว.250 คน ตามบทเฉพาะกาล ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

แกะรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ระบุไว้ว่า ในระหว่าง 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา (ส.ส.และ ส.ว.) (375 เสียงขึ้นไป)

ดังนั้นเมื่ออายุสภาผู้แทนราษฎรมีคราวละ 4 ปี หากไม่มีอุบัติเหตุ แต่ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลมีอายุ 5 ปี สามารถร่วมยกมือโหวตเลือกนายกฯได้ 2 สมัย

ในภาวะที่รัฐบาลประยุทธ์ 2 เจียนอยู่ เจียนตาย หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น โดยที่ยังมีมาตรา 272 คงไว้ในรัฐธรรมนูญ ส.ว.จะกลายเป็น “ตัวแปร” ในการโหวตเลือกผู้นำประเทศอีกคำรบ

“พรรคก้าวไกล” ประกาศตัวเป็น “หัวหอก” ระดมเสียงสนับสนุนจากผู้ทรงเกียรติ มาร่วม “ลงชื่อ” ให้ครบ 98 ชื่อ เพื่อยื่นต่อ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดปฏิบัติการยกเลิกสภาทหารเกณฑ์

ทว่า ลำพังแค่พรรคก้าวไกล เสียง ส.ส.ในพรรคไม่เพียงพอที่จะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวได้ เพราะมีเสียงแค่ 54 เสียง ยังขาดอีก 44 เสียงจึงต้องควานหาเสียงเพิ่มทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน

“ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล จึงต้องกวักมือเรียกเพื่อน ส.ส.จากฝ่ายค้าน + ฝ่ายรัฐบาลมาร่วมลงชื่อในญัตติ

เมื่อ 54 เสียงของก้าวไกล รวมกับเพื่อนฝ่ายค้าน 23 เสียง เสรีรวมไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ 7 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียงพรรคเศรษฐกิจใหม่ (มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) 1 เสียง คร่าว ๆ 80 เสียงเบื้องต้นอยู่ในมือ

“พรรคก้าวไกล” จึงเปิดดีลทางลับกับฝ่ายค้านในซีกรัฐบาล อย่าง “ประชาธิปัตย์” เพื่อขอเสียงหนุน ปิดประตู ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ขออีก 20 เสียงจากพรรคการเมืองเก่าแก่ก็จะทะลุเป้า

จึงเกิดปรากฏการณ์ “กบฏประชาธิปัตย์” 16 เสียง พร้อมด้วย 7 ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคภูมิใจไทย 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน พรรคไทยศรีวิไลย์ 1 คน พรรคไทรักธรรม 1 คน พรรคประชาธรรมไทย 1 คน และพรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 คน  ร่วมลงชื่อในญัตติปิดสวิตช์ ส.ว. รวม 23 คน ทำให้ญัตติของก้าวไกลมี ส.ส.สนับสนุน 99 เสียง เกินเป้าหมาย

แต่ไม่ทันข้ามคืน เหล่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็พลิกท่าที 180 องศา ถอดชื่อออกจากญัตติก้าวไกล โดยเป็นประชาธิปัตย์ 11 คน ที่เหลือเป็น ส.ส.พรรคเล็กๆ ทำให้ฝันก้าวไกล ไปไม่ไกลถึงเป้าหมาย

“ชัยธวัช” แฉเหตุผลที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลถอนชื่อในชั่วข้ามคืนว่า “เท่าที่เราทราบ เพราะมีแรงกดดันจากฝั่งรัฐบาลสูงมาก ทำให้ ส.ส.หลายท่านขอถอนรายชื่อ”

“อัศวิน วิภูศิริ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประชาธิปัตย์ ซึ่งอีกหมวกหนึ่งเป็นบิดาของ “ชาญวิทย์ วิภูศิริ” ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ และยังเป็น 1 ใน ส.ส.ที่ถอดชื่อออกให้เหตุผลว่า

“ทำไปเพราะความเป็นเพื่อน และไม่คิดว่าจะทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในพรรค แต่เมื่อลงชื่อแล้ว ปรากฏว่ามีปัญหา และถูกมองว่ากลายเป็นกบฏพรรคประชาธิปัตย์ ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรค จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค ทำให้ต้องตัดสินใจถอนชื่อ”

ท่ามกลางกระแสข่าวที่สะพัดทั้งสภา ในช่วงเช้าของวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมาว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ถูกกดดันจากวิปรัฐบาลอย่างหนักให้มาพูดคุยกับ 11 ส.ส.ประชาธิปัตย์ให้ถอนชื่อออกจากญัตติของก้าวไกล

เสียงยอมรับอีก 1 เสียงมาจาก  “สุรทิน พิจารณ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งเคยคลุกคลีกับพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้มากอดคอร่วมวงรัฐบาลได้ถอดชื่อเพราะวิปรัฐบาล “ขอร้องมา”

ขณะที่พันธมิตรฝ่ายค้านตัวใหญ่ แต่เป็นคู่แค้นในเกมแก้รัฐธรรมนูญ อย่าง “พรรคเพื่อไทย” ที่กำเสียง 134 เสียง ที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นด้วยกับการยื่นปลดแอก ส.ว.ทหาร 250 คน ด้วยมติที่ประชุมพรรครับรองเกือบเป็นเอกฉันท์ 99.99% ของก้าวไกล  เพราะเห็นว่าไม่ควรเล่นเกม “หัก” กับ ส.ว.เร็วเกินไปตั้งแต่ “วาระแรก” ของการแก้รัฐธรรมนูญ

เนื่องจากกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อนำไปสู่กระบวนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ยังต้อง “ยืมมือ” ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 คือ 84 เสียง หากไป “แตกหัก” กับ ส.ว.เร็วเกินไป จากแนวร่วมอาจกลายเป็น “แนวต้าน” โดยฉับพลัน

แต่หลังจากกระแสปิดสวิตช์ ส.ว.ของก้าวไกลจุดติด ทั้งใน – นอกสภา เพื่อไทยแก้หน้า – แก้ตัวขอยื่นญัตติ แก้ไขมาตรา 272 ด้วยคน โดยใช้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล้างมาตรา 272 ที่ร่างโดย “โภคิน พลกุล” และทีมงานเพื่อไทย พ่วงมาตรา 159 ที่มานายกฯ พร้อมญัตติเพิ่มเติมอีก 3 เรื่อง 1.การยกเลิกอำนาจของวุฒิสภา ตามมาตรา 270 เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ 2. ยกเลิกมาตรา 279 ซึ่งเป็นมาตราที่รองรับความชอบธรรมประกาศ – คำสั่ง คสช. และ 3. แก้ไขระบบเลือกตั้ง

“เพื่อไทย” มาแรง แซงทางโค้ง ชิงซีนการเมืองกลับมาจาก “ก้าวไกล” หลังจากตกเป็นฝ่าย “เสียเหลี่ยม” เกมแก้รัฐธรรมนูญให้กับพันธมิตรคู่แค้นในฝ่ายค้านมาโดยตลอด

พร้อมกวักมือให้ “ก้าวไกล” มาร่วมลงชื่อในญัตติของเพื่อไทย เอาคืนกันเห็นๆ….