ตำรวจนครบาล ระบุมีผู้ชุมนุมช่วง 19-20 กันยายน 2563 เข้าข่ายกระทำความผิด 16 คน ทั้งตาม พ.ร.บ.การชุมนุม-โพสต์ข้อความ-ปราศรัยบนเวที
วันที่ 22 กันยายน 2563 พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เปิดผยว่า ตำรวจนครบาล เดินหน้าเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุม เมื่อวันที่ 19-20 กันยายน ที่ผ่านมา มีผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดทั้งหมด 16 คน เเบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
1.กลุ่มผู้จัดการชุมนุมดังกล่าวขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ขออนุญาตตาม พ.ร.บ.การชุมนุม
2.กลุ่มเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม โดยการเชิญชวนมี ทั้งที่เป็นการประกาศปราศรัยบนเวที ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมจริงของวันที่ 19 และ 20 กันยายน รวมไปถึงการโพสต์ข้อความเชิญชวนทั้งทางตรงและทางอ้อมหรือเชิงสัญลักษณ์ใน Social Media ทุกช่องทาง
3.เป็นกลุ่มคนที่ขึ้นร่วมปราศรัยบนเวที โดยในส่วนนี้อยู่ระหว่างการแกะคำพูดปราศรัย บางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ให้ชุดสืบสวนไล่ตรวจกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาประกอบกับหลักฐานจากสื่อมวลชนที่เป็นภาพการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกลุ่มชุมนุมควบคู่ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาเรื่องของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.สุคุณ ยืนยันว่า ต้องทำคดีให้ครอบคลุม ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่ากลั่นเเกล้ง โดยการทำคดีนี้ยืนยันว่าไม่ถูกกดดันจากฝ่ายใด เพียงเเต่ทำไปตามกรอบกฎหมายเท่านั้น
กรณีคดีที่กรมศิลปากร และสำนักงานเขตพระนครกรุงเทพมหานคร เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตามความผิด พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 10 ห้ามไม่ให้ผู้ใดซ่อมแซมแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือถอนต่อเติมทำลายหรือเคลื่อนย้ายสิ่งใด ๆ ภายในพื้นที่โบราณสถาน
และข้อหาทำลายทรัพย์สินของราชการ นั้น พล.ต.ต.สุคุณ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะนำรวมเป็นสำนวนคดีเดียวกัน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ชุมนุมเดียวกัน เเละเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน
ส่วนเรื่องการที่มีการนำหมุดพลาสติกมาวางแทนที่เดิมไว้นั้น ถือว่ายังไม่เข้าข่ายความผิดที่จะต้องแจ้งกับทางตำรวจ แต่อาจจะผิดในความผิด พ.ร.บ.ความสะอาด ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร สามารถจัดการได้เอง