การเมือง

แก้รัฐธรรมนูญ “ฉบับใต้ดิน” พลังประชารัฐ-บริวารประยุทธ์ เปิดดีลฝ่ายค้าน

พลังประชารัฐ-บิ๊กป้อม

ปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2563 ไปด้วยความทุลักทุเล หลังประกอบพิธีกรรมแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 วัน 1 คืน ไม่จบ-หายใจไม่ทั่วท้อง

แต่จบลงด้วยการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาก่อนรับหลักการ จำนวน 31 คน ยืดการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปอีก 30 วัน

เจอกันอีกทีในการเปิดรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 พ.ศ. … วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563

เบื้องหลัง “ดึงไฟออกจากไฟ” เมื่อ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จับสัญญาณไฟแค้นนอกสภา งัดข้อบังคับที่ 121 วรรคสาม ตัดไฟม็อบ-ไม่ให้รัฐธรรมนูญถูกคว่ำจนเข้าทางแกนนำม็อบสายฮาร์ดคอร์ ทั้งใน-นอกสภาถอนหายใจเฮือกใหญ่-เหมือนยกภูเขาไฟออกจากอก

หลังจาก ส.ว.สายแข็งดาหน้าถล่ม 6 ญัตติแก้รัฐธรรมนูญ “ริบอำนาจ” เลือกนายกรัฐมนตรี “ถ้าวันนั้นฝืนโหวต 6 ญัตติตกหมด ดังนั้น กุญแจสำคัญ คือ ส.ว. 250 คน” ไพบูลย์-มือคัตเอาต์ระบุ พร้อมเตรียมเทียบเชิญ “เจ้าของญัตติ” มาชี้แจง

ขณะที่ช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา “ส.ว.สายบิ๊กตึกไทยคู่ฟ้า” เตรียมส่ง “ทูตสันถวไมตรี” หารือนอกรอบกับ 5 พรรคฝ่ายค้าน หลังจาก “บอยคอต” ไม่สังฆกรรมกับ “พรรคร่วมรัฐบาล” เพื่อหาข้อสรุปก่อนลงมติแก้-ไม่แก้รัฐธรรมนูญ

“วันนั้น ถ้า ส.ว.โหวต คงไม่ผ่านทั้ง 6 ญัตติ ตกไปหมด จึงเสนอให้ตั้งคณะขึ้นมาศึกษาก่อน เพราะหลายอย่าง ส.ว.ไม่รู้เรื่อง ส.ว.ไม่ค่อยแฮปปี้กับการมีพรรคบางพรรคด่าทอ เขาก็โกรธ แต่เดี๋ยวมีทางออก เพราะ กมธ.จะศึกษา how to do จะแก้อย่างไร จะโหวตอย่างไร เช่น ถ้าโหวตรับร่างรัฐบาลและร่างฝ่ายค้านให้ตั้ง ส.ส.ร. แล้วอีก 4 ร่างรายมาตราจะตกไหม”

ส.ว.มือดีลฝ่ายนิติบัญญัติ-ฝ่ายบริหาร การันตีว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมจะตกลงกันได้ เพราะ ส.ว.ไม่เห็นด้วยหลายอย่าง ส.ว.ต้องการให้แก้หลายเรื่องเหมือนกัน แต่แก้ต้องมีกรอบหมวด 1 และหมวด 2 ไม่แตะ

“แต่ตอนนี้ไม่มีใครรับปากว่าจะไม่แก้ พรรคก้าวไกลต้องการแตะทุกตัวอักษร ทุกมาตรา ส.ว.เขาก็ไม่เอาสิ เราไม่รู้ว่าจะมีอีกกี่ร่าง ครม.จะส่งมามีร่างไหม iLaw จะส่งมาเป็นอย่างไร ส.ว.จะเสนอของตัวเองมาหรือไม่ ต้องรออีก 30 วัน”

โดย 31 อรหันต์จะประชุมครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งจะครบกำหนด 30 วันในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 ก่อนในเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา “ครั้งแรก” ของสมัยประชุมสามัญฯ ครั้งที่ 2 ทันที

ฟากฝั่ง ส.ส.พรรครัฐบาล ในช่วง “ปิดเทอมกลางภาค” พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส.ส.ที่ยังเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ในสภาก็ยังคงทำหน้าที่ในคณะ กมธ. ควบคู่ไปกับการ “ลงพื้นที่” ของ ส.ส.เขต เพื่อจัดกิจกรรมเพื่อสังคม งานบุญ-งานกฐิน

แหล่งข่าวจาก ส.ส.แกนนำกลุ่ม กทม.พลังประชารัฐ ระบุว่า เร็ว ๆ นี้ ส.ส.กทม.จะนัดประชุมกันเพื่อจัดกิจกรรม-คิดแคมเปญเพื่อ “สร้างผลงาน” และ “ทำพื้นที่” เตรียมพร้อมก่อนถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ขณะที่หัวหน้าภาคแต่ละภาคก็จะลงพื้นที่เตรียมตัวเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมาถึงในช่วงปลายปีนี้ จนถึงต้นปีหน้า

นอกจากนี้ ส.ส.เขตของพรรคจะต้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เพราะอะไรถึงต้องยืดระยะเวลาการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปอีก 1 เดือน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เนื้อหาเกี่ยวข้อa”กับ ส.ว.โดยตรง และต้องใช้เสียงของ ส.ว. 84 เสียงเพื่อเห็นชอบให้แก้ไข ดังนั้น ส.ว.ควรต้องเข้ามามีส่วนร่วม

“กลับกันก็ต้องลงไปรับฟังความเห็นและเหตุผลของประชาชนในพื้นที่ด้วยว่าต้องการให้ลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะจากการสัมผัสประชาชนในพื้นที่ยังไม่เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นปัญหาเร่งด่วนมากกว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง” ส.ส.แกนนำกลุ่ม กทม.อีกรายระบุว่า อย่างไรก็ดี การที่พรรคพลังประชารัฐเสนอร่างของรัฐบาล เป็นแสดงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการตัดสินใจลงมติเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของรัฐบาลก็เป็นการแสดงออกถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“แต่ถ้าการลงพื้นที่พบประชาชนในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ มีเหตุผลที่ดีกว่าและมีเหตุผลต่อการตัดสินใจว่าจะลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็คงต้องมาคุยกันภายในพรรคอีกครั้ง เพราะการตัดสินใจแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นเพราะการกดดันจากการชุมนุมนอกสภา”

ปิดเทอมการเมือง หัวใจคนการเมืองว้าวุ่น