ม็อบอนุสาวรีย์ชัยฯ ยุติชุมนุม ร้องเพลง “ดอกไม้จะบาน” เปิดแฟลชมือถือ

ม็อบร้องเพลง ‘ดอกไม้จะบาน’ เปิดแฟลชมือถือ ประกาศยุติชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2563 สำหรับการชุมนุมของกลุ่มราษฎร บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ตั้งแต่ช่วงเย็น เวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ร่วมร้องเพลงชาติพร้อมชู 3 นิ้ว ก่อนโห่ร้อง และเรียกร้อง 3 ข้อเช่นเดิม ก่อนจะเชิญชวนผู้ที่อยู่บนสกายวอล์กลงมาด้านล่าง ต่อมาเวลา 18.04 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดแฟลชโทรศัพท์อย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง

จากนั้นเวลา 18.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมขยายพื้นที่การชุมนุมจากวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาทางถนนพญาไท และตั้งแนวอยู่บริเวณหน้าห้างเซ็นจูรี่ ใต้บีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นระดมร่มมาทำแนวป้องกัน โดยมีการ์ดอยู่แนวหน้า เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม หากเจ้าหน้าที่ต้องการเข้ามาสลายการชุมนุม รวมถึงมีการระดมหมวกกันน็อก แว่นตามาเป็นอุปกรณ์ป้องกันด้วย ส่วนบริเวณถนนวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังมีการปราศรัยเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำของกลุ่มราษฎรและขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนประมาณ 1 กองร้อย รวมตัวกันอยู่ที่สำนักงานเขตราชเทวี พร้อมรถขนผู้ต้องขัง 1 คัน จอดอยู่ด้านในด้วย

เมื่อเวลา 18.45 น. บรรยากาศช่วงค่ำ มีเยาวชนมาชุมนุมจำนวนมากขึ้น ท่ามกลางการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการตะโกนบอกต่อให้ระวังเรื่องเจ้าหน้าที่กำลังเตรียมความพร้อม ขณะที่บนเวทีแจ้งเป็นระยะ ๆ ว่า ขอให้รอฟังสัญญาณจากแหล่งเดียว และขอให้ทุกคนมีสติ

นอกจากนี้มีการแจกสติ๊กเกอร์รูปหมุดคณะราษฎรให้กับผู้ที่มาร่วมชุมนุม ขณะที่บริเวณใต้สกายวอล์กอนุสาวรีย์ชัยฯ มีการตั้งจุดปราศรัยย่อยโจมตีการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชนได้

เวลา 18.47 น. ผู้ชุมนุมต่างตะโกนพร้อมกันว่า “สองทุ่มกลับบ้าน”

เวลา 19.00 น. มีการสลับกันขึ้นปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาร่วมชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาและจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ เพราะมองว่าพวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้ขอให้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เพราะทุกคนมาร่วมชุมนุมด้วยความสงบ สันติ ไม่สร้างความเดือดร้อน ไม่ใช่กำลัง นอกจากนี้ขอให้ทุกคนยืนยันต่อสู้จนกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะลาออก และข้อเรียกร้องของเราจะสำเร็จ ทั้งนี้ ได้มีการประกาศขอแผงกั้นและแว่นตาให้ผู้ชุมนุมทางฝั่งราชวิถีเป็นระยะ

ขณะที่ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว แนวร่วมกลุ่มปลดแอก เข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมด้วย โดย น.ส.ชลธิชา กล่าวว่า การชุมนุมขณะนี้เติบโตเร็วมาก เป็นการชุมนุมที่มีระเบียบ อยู่บนพื้นฐานสันติวิธี ไม่มีการปะทะ ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้น เราต้องช่วยกันเรียกร้องและกดดันรัฐบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องไม่ใช้ความรุนแรง เชื่อว่าไม่เกิน 20.00 น. มวลชนก็จะแยกย้าย และหวังว่าสัปดาห์หน้าสภาฯ จะเร่งเปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ปัญหาประเทศต่อไป

ต่อมาเวลา 19.20 น. ผู้ชุมนุม ต่างตะโกน รถน้ำมาแล้ว แต่การปราศรัยบนเวทีบอกว่า อย่าเพิ่งตื่นตระหน และมีการส่งสัญญาณให้ผู้ชุมนุมเตรียมสวมหมวกกับแว่น

เวลา 19.38 น. บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ มีผู้ขึ้นปราศรัยอ้างว่าเป็นตำรวจนายหนึ่ง กล่าวว่า อยากมายืนเคียงข้างประชาชน และอยากให้เพื่อนตำรวจที่ได้ยินเสียงนี้ ออกมายืนต่อสู้เคียงข้างประชาชนได้แล้ว ขนาดเรียนเราถูกปลูกฝังให้เป็นตำรวจเพื่อประชาชน วันนี้มีตำรวจที่คิดได้ แต่ทำไมไม่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาชน ที่มาพูดวันนี้อยากให้เพื่อนตำรวจออกมา เพื่อตำรวจที่หนีกลับบ้านไปแล้ว อยากให้ออกมายืนเป็นหน้าด่าน ต่อสู้กับอำนาจที่ไม่ชอบธรรม ออกมาได้แล้ว ออกมายืนเคียงข้างประชาขน เงินเดือนก็มาจากภาษีประชาชน อยากเตือนสติเพื่อนตำรวจทุกคน ว่าเราฝึกกายฝึกใจไว้ เพื่อพิทักษ์รับใช้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ แม้จะเลยเวลานัดยุติชุมนุมในเวลา 20.00 น.แล้ว แต่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยสลับสับเปลี่ยนปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ระบุว่าแม้วันนี้การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด แต่พวกเราจะสู้กันต่อไป ยืนยันการมารวมตัวกันวันนี้ ต่างชาติรู้ว่าเรามาด้วยสันติวิธี ไม่มีความรุนแรง เมื่อยิ่งเด็ดดอกไม้ ดอกไม้จะยิ่งบาน

จากนั้นร่วมกันร้องเพลง ดอกไม้จะบาน พร้อมกับเปิดแฟลชโทรศัพท์โบกไปมา หลังร้องเพลงจบผู้ชุมนุมต่างพร้อมใจตะโกนว่า เมื่อท้องฟ้าสีผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกลับ

 

ที่มา : ข่าวสด