เอกสารสั่งปิด “เทเลแกรม” ว่อนโลกออนไลน์

โลกออนไลน์มีการเผยแพร่ เอกสารสั่งปิด “เทเลแกรม” ระบุเป็นไปตามคำสั่งกระทรวงดิจิทัลฯ

วันที่ 19 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกออนไลน์ ได้แชร์ประกาศแจ้ง เรื่อง ขอให้ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ถึง กสทช. ระบุว่า ตามคำสั่งของผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอความร่วมมือ กสทช. ให้ดำเนินการแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกราย ระงับการใช้แอพพลิเคชั่นเทเลแกรม พร้อมแนบ ไอพีแอดเดรส มาด้วย

เอกสารสั่งปิดเทเลแกรมเอกสารสั่งปิดเทเลแกรม

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศของอินโดนีเซีย ได้สั่งปิดเว็บไซต์ของเทเลแกรม โดยให้เหตุผลว่าเทเลแกรมไม่ควบคุมเนื้อหาในช่องทางออนไลน์ของตัวเอง ทำให้มีการส่งต่อข้อมูลที่ยั่วยุและปลุกปั่นให้มีการใช้ความรุนแรง เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติ

ในเวลานั้น สำนักข่าวบีบีซีและเว็บไซต์เดอะเวิร์จ รายงานว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส นิยมใช้เทเลแกรมในการติดต่อสื่อสารกันภายในกลุ่มสมาชิก เพื่อหลีกเลี่ยงจากการสอดแนมหรือการตรวจจับข้อมูลของหน่วยงานต่อต้านก่อการร้าย

ต่อมา นายพาเวล ดูรอฟ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารเทเลแกรม กล่าวว่า เป้าหมายของเทเลแกรมคือการให้บริการช่องทางสื่อสารที่ปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส ที่จะช่วยให้ผู้รับและผู้ส่งสารมั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกสอดแนม แต่ไม่เคยมีความคิดจะสนับสนุนเครือข่ายก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ทางเทเลแกรมได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซีย หลังรัฐบาลอินโดนีเซียขีดเส้นตายว่าถ้าเทเลแกรมไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะออกคำสั่งระงับการใช้งานแอปพลิเคชันเทเลแกรมในโทรศัพท์มือถือด้วย

นอกจากนี้ เทเลแกรม ยังเคยถูกศาลสูงรัสเซียตัดสินให้มอบกุญแจเข้ารหัสกับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ เพื่ออ่านข้อมูลการส่งข้อความของผู้ใช้ด้วย แม้ก่อนหน้านี้ทางเทเลแกรมจะอุทธรณ์คำตัดสิน แต่คำอุทธรณ์ของพวกเขาก็ถูกปัดตก โดยหากพวกเขาไม่ให้กุญแจเข้ารหัส เทเลแกรมก็อาจถูกบล็อกในรัสเซีย

“พาเวล ดูรอฟ” ผู้ก่อตั้งเทเลแกรมชาวรัสเซียที่ลี้ภัยในต่างประเทศ เผยว่า หน่วยงานความมั่นคงฯ ได้ร้องขอสิทธิการเข้าถึงอย่างลับๆ เมื่อเทเลแกรมไม่ให้กุญแจเข้ารหัส จึงมีการยื่นฟ้องอย่างเป็นทางการ