ต่างจังหวัด ชี้ ม็อบยังไม่กระทบเศรษฐกิจ แต่หวั่นยืดเยื้อ

ต่างจังหวัดไม่กระทบจากม็อบ
ภาพโดย Nirut Phengjaiwong จาก Pixabay

การชุมนุมในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ต่อเนื่องมาหลายวัน สร้างความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจในต่างจังหวัด ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของภาคธุรกิจในต่างจังหวัด พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม แต่เห็นตรงกันว่ารัฐบาลควรรีบหาทางออกโดยเร็ว 

เริ่มที่ นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ผู้บริหารตั้งงี่สุน จ.อุดรธานี เผยว่า ในพื้นที่อุดรธานีมีการประท้วงแต่ ไม่เกิดความรุนแรง เป็นความคิดต่างระหว่างรุ่นเด็กกับรุ่นผู้ใหญ่ ครั้งนี้เป็นการประท้วงที่พัฒนาไปในทางที่ดีและซอฟต์ลงทั้งกลุ่มผู้ประท้วงและฝ่ายรัฐ ไม่อยากให้พัฒนาไปสู่ความรุนแรง ให้ทั้งสองฝ่ายหาทางออกร่วมกันให้ได้ และระวังมือที่สาม

ด้าน นายกฤษณ์ เชาว์บวร ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ชุมนุมหากยืดเยื้อจะมีผลต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน นักลงทุน จะไม่เชื่อมั่น จึงอยากให้แก้ปัญหาการเมืองด้วยการเมือง แม้ 3 ข้อเสนอที่ม็อบเรียกร้องจะแก้ได้ไม่หมด แต่หากถอยคนละก้าวน่าจะพบจุดลงตัว

เช่นเดียวกับที่นายภัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า แม้จำนวนผู้ประท้วงขยายวงกว้างแต่การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ ไม่มีการใช้ความรุนแรง เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จึงไม่กระทบภาคเศรษฐกิจและธุรกิจ

“ช่วง 2 วันที่ผ่านมาซึ่งเริ่มเข้าสู่ไฮซีซั่นของเชียงใหม่ พบว่าผู้โดยสารขาเข้าผ่านสนามบินเชียงใหม่ 8,000 คน ผู้โดยสารขาออกเกือบ 9,000 คน ถือว่าคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นคนไทย แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้ไม่กระทบภาคการท่องเที่ยว แต่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องหาจุดร่วมโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ” นายวัลลภ กล่าว

ขณะที่ นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก มองว่า การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง คนไม่อยากไปท่องเที่ยว เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยการเดินทาง จึงอยากให้รัฐบาลรีบหาทางออก