#ไทยจินไม่อินเผด็จการ คนไทยในญี่ปุ่นแสดงพลังหนุนการเคลื่อนไหวในไทย

#ไทยจินไม่อินเผด็จการ คนไทยในญี่ปุ่นชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนการเคลื่อนไหวในประเทศไทย

วันที่ 25 ตุลาคม 2563 ชาวไทยในญี่ปุ่นกว่า 300 คนรวมตัวกันบริเวณหน้าสถานีชิบูย่า เพื่อชูป้ายประท้วง พร้อมปราศัยแสดงการสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนเพื่อต่อต้านรัฐบาลของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

นายธนากร ใจสุขสกุลดี หนึ่งในแกนนำผู้ปราศัยในการชุมนุมครั้งนี้ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนกลุ่มนักเรียน นักศึกษาไทยที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และเป็นการสื่อสารถึงรัฐบาลญี่ปุ่นและนานาชาติ ว่าไม่ควรสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่ฟังเสียงประชาชน

ธนากร ใจสุขสกุลดี
ธนากร ใจสุขสกุลดี

“รัฐบาลชุดนี้ทำงานไม่เป็น และตรวจสอบไม่ได้” นายธนากรกล่าว “การเคลื่อนไหวในต่างประเทศก็ถูกต่อต้านจากคนที่ไม่เห็นด้วยบ้าง แต่ทางเราหวังว่า การเคลื่อนไหวในต่างประเทศจะได้รับความสนใจจากนานาชาติ เพื่อกดดันรัฐบาลไทย ไม่ให้ใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุม”

ด้านดาว ปิยพร นักศึกษาทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ กล่าวว่า ตนมาร่วมการชุมนุมครั้งนี้ เพราะอยากแสดงพลังร่วมกับเพื่อน ๆ รุ่นพี่ รุ่นน้องที่เคลื่อนไหวในประเทศไทย

“เราอยากเคลื่อนไหวเพื่อประเทศ เพราะแม้ว่าเราจะอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะไทยเป็นประเทศบ้านเกิด และถึงแม้ว่าเราอยู่ญี่ปุ่น ก็อยากทำอะไรให้ประเทศไทยบ้าง”

“เราเห็นเพื่อนเราไปร่วมการชุมนุมที่ไทย และเราเห็นภาพการสลายการชุมนุมในไทยที่ภาพมันออกมาค่อนข้างจะรุนแรง เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหว เราไม่อยากเห็นเพื่อนเราถูกทำร้าย”

ดาวบอกว่า การชุมนุมครั้งนี้ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นเยอะ กลายคนที่เคยต่อต้านกลุ่มประชาธิปไตยก่อนหน้านี้ ก็เริ่มรับรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น อยากให้คนเห็นว่า การเมืองเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เรื่องสถาบันก็เริ่มเป็นเรื่องที่พูดถึงการได้ทั่วไปมากขึ้น แม้จะยังมีกฎหมาย และยังมีคนถูกจับอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็มีคนออกมาพูดเรื่องนี้กันมากขึ้น”

สำหรับความคาดหวัง ในฐานะคนที่เคลื่อนไหวมานานกว่า 10 ปี ธนากรไม่คาดหวังมาก เพราะอยาก แต่ก็หวังว่าจะมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพื่อพี่น้องครอบครัวที่ไทย ส่วนดาวมีความหวังมากกว่านั้น ดาวหวังว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะนำไปสู่การปฏิรูปสถาบัน ปฏิรูปการเมือง และนำไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง