‘ปารีณา ไกรคุปต์’ เตรียมขอใช้เอกสิทธิคุ้มครอง หลังถูกฟ้องคดีรุกป่า
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ข่าวสด รายงาน กรณี กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) มีความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี หลังพบความผิด 4 ข้อหารุกป่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ล่าสุด นางภัทรมน เพ็งส้ม ทนายความของ เผยว่า น.ส.ปารีณา ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องดังกล่าว ส่วนที่ บก.ปทส. ส่งอัยการให้ฟ้องคดี เป็นช่วงที่สภาผู้แทนราษฎร เปิดสมัยประชุมนั้น เบื้องต้น น.ส.ปารีณา จะขอใช้เอกสิทธิคุ้มครอง หาก บก.ปทส. หรือ อัยการจะดำเนินการ ต้องส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเรื่องมากยังประธานสภาฯ ให้สภาฯ มีมติจะส่งตัวให้ดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุมหรือไม่
นางภัทรมน กล่าวอีกว่า คดีที่ บก.ปทส. สั่งฟ้องไปนั้น ทนายต่อสู้ทุกประเด็น เพราะคำกล่าวหาว่าบุกรุกป่านั้น ข้อเท็จจริง น.ส.ปารีณา เข้าถือครอง ปี 2545 ซึ่งเป็นเวลาที่พื้นที่ดังกล่าวนั้น ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ สปก. มาแล้วหลายปี
อีกทั้งยังเป็นการใช้พื้นที่เพื่อทำเกษตรกรรม ทำฟาร์มไก่ โดยไม่มีการบุกรุก แผ้วถางป่าเพิ่มเติม ตามความหมายของคำว่าบุกรุกป่า อย่างไรก็ตามการสอบสวนเรื่องดังกล่าวใช้เวลาดำเนินการเพียงปีเศษ คือ แจ้งความปี 62 และส่งฟ้องปี 63 ทั้งที่กรณีของบุคคลอื่นต้องใช้เวลากว่า 10 ปี
“ต้องให้ความเป็นธรรมกับ ส.ส.ปารีณา ที่ทำอาชีพสุจริต คือ เลี้ยงไก่ ไม่ใช่ตัดไม้ทำลายป่า หรือ ทำรีสอร์ทในพื้นที่ อีกทั้งผู้ถือครองที่ดินก่อนหน้านั้นทำเกษตรกรรม และ ส.ส.ปารีณาทำเกษตรกรรมต่อ อย่างไรก็ตามตำรวจแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ได้ให้ความเป็นธรรม เพราะกรณีที่ที่ดิน สปก. ถูกถือครองเกินพื้นที่ โดยปกติจะฟ้องขอคืนเท่านั้น ไม่ใช่ดำเนินคดี
ทั้งนี้การฟ้องคดีที่เกิดขึ้น ทนายต้องต่อสู้เพื่อให้มีความชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเป็นผลเสียกับประชาชนทั้งประเทศที่ทำมาหากิน บนที่ดิน สปก. ในลักษณะเดียวกัน” นางภัทรมน กล่าว