“ประยุทธ์” โชว์ยุทธศาสตร์ชาติ ผลงานเยอะ ใช้ความยุติธรรมแก้วิกฤต

นายกรัฐมนตรี ยัน รับฟังทุกพวก ทุกกลุ่ม ต้องใช้สภาแก้ปัญหา ทุกรัฐบาลต้องยึดมั่น ปรับแผนพีอาร์ปฏิรูป – ยุทธศาสตร์ชาติ พร้อม อนุมัติ 6 หมื่นล้าน เดินหน้าประกันราคาข้าว – ยาง

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 โรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ท ไม้ขาว จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ครั้งที่ 3/2563 ว่า ความมุ่งหมายในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้นั้น เพื่อต้องการสร้างการรับรู้ให้คนทั้งประเทศได้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหาสุขภาพและเศรษฐกิจของเราที่เผชิญปัญหาอยู่ในเวนลานี้

นอกจากนี้ วัตถุประสงค์ในการมาคือสร้างความเชื่อมั่น ความพร้อมมาตรการต่างๆ ทุกมาตรการ ถ้าหากเริ่มเปิดประเทศจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีมาตรการคัดกรองที่เหมาะสมและเข้มงวด ขณะเดียวกัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีศักยภาพอยู่ ให้เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน มีมาตรการการเงินการคลังเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อรักษาสภาพคล่องสามารถจ้างแรงงาน ลูกจ้าง พนักงานได้ต่อไปได้

รับฟังปัญหาภูเก็ต-สมุย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับทราบตลอด 2 วัน จากการมาประชุม ครม.สัญจร คือได้รับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะ ของผู้ประกอบการใน จ.ภูเก็ต และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งข้อเสนอมีทั้งการ เยียวยา ฟื้นฟู เรื่องเตรียมการท่องเที่ยวในวันนี้และอนาคต ต้องมีการพัฒนาคุณภาพด้านการท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น เพราะ จ.ภูเก็ต และเกาะสมุย อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการกว่า 90% อีก 10% เป็นอาชีพอื่น ๆ

ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อมไว้ด้วย เพราะสถานการณ์เช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้อีกหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เพราะโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผลกระทบนี้จะเป็นบทเรียนให้กับรัฐบาลทุกรัฐบาล ทุกภูมิภาคได้เตรียมการ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจขึ้นมาใหม่ ตรงความต้องการของพื้นที่ บางจังหวัดอาจเน้นเกษตร บางจังหวัดอาจเน้นท่องเที่ยว บางจังหวัดเน้นเรื่องอุตสาหกรรม สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำแนวพระบรมราโชบาย เรื่องสืบสาน รักษาต่อยอดตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ปรับแผน PR ยุทธศาสตร์ชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนในการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปแล้ว วันนี้มีผลงานปรากฏจำนวนมาก แต่สร้างการรับรู้ได้ไม่มากนัก จึงปรับวิธีการนำเสนอใหม่ว่าแต่ละยุทธศาสตร์ได้ดำเนินการไปแล้ว อะไรที่ปรากฏเป็นผลสัมฤทธิ์ อะไรที่กำลังทำอยู่และมีแผนทำต่อไป เราจะมีถนน รถไฟฟ้า โมโนเรลอย่างไร ใน กทม.และต่างจังหวัด คือยุทธศาสตร์ชาติ ไม่เช่นนั้นไม่ต่อเนื่องกันเชื่อมโยงกัน

ตีกลับโมโนเรล 3 หมื่นล้าน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งใดที่จังหวัดเสนอมา ทั้งด้านการท่องเที่ยว การเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต รัฐบาลรับไว้พิจารณาทั้งหมด อะไรที่จะทำได้ก็จะทำ อันไหนที่มีปัญหาก็ต้องนำไปศึกษา ดูกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เรื่องใดทำได้เลยก็จะทำได้โดยเร็ว เรื่องใดที่ต้องหารือเพิ่มเติม โดยการรวบรวมโดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาความเหมาะสม สำนักงบประมาณต้องไปพิจารณาเรื่องงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายจำนวนมาก ซึ่งโครงการพัฒนารถไฟรางเบา ในรูปแบบการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) มูลค่าการลงทุน 30,000 กว่าล้านบาท ต้องเข้ากระบวนการศึกษาต่างๆ สิ่งที่ได้รับกับประชาชนกับประเทศชาติ เพราะเราใช้ภาษีประชาชนมาพัฒนาทั้งสิ้น

มีอีกหลายจังหวัดมีศักยภาพในการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน เขาก็อยากทำเหมือนกัน ดังนั้น ทำอย่างไรต้องทั่วถึง เป็นธรรม เท่าเทียม และรัฐบาลได้อนุมัติโครงการที่ใช้งบฟื้นฟูจำนวนหนึ่ง ซึ่งใช้แล้วครบทุกจังหวัด ต่อไปจะซอยลงถึงพื้นที่ถึงตำบล อำเภอ จะมีมูลค่าในการพยุงเศรษฐกิจของประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากให้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ขอให้พวกเราช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ เพื่อจะได้บริหารกิจการเหล่านี้ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องมาตรการทางการเงินการคลัง การต่ออายุมาตรการทางภาษี จะทยอยดำเนินการให้ เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบรายได้ของรัฐ ถ้าเก็บภาษีไม่ได้มาก รายได้ส่วนนี้ลดลงแน่นอน อาจทำให้โครงการล่าช้า แต่รัฐบาลจะหาวิถีทางดำเนินการได้ในสิ่งที่เร่งด่วน

ไฟเขียวประกันราคายาง – ข้าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ครม.ได้อนุมัติโครงการสำคัญ คือโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563-2564 รอบที่ที่ 1 ประกอบด้วยมาตรการอื่นๆ 61,193.96 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันรายได้ยาง 9,045.82 ล้านบาท ประกันรายได้ข้าวและโครงการคู่ขนาน 51,248.14 ล้านบาท เราจำเป็นต้องปรับงบประมาณให้เพียงพอ วันข้างหน้าต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะนอกจาก ยาง และข้าว ยังมีพืชอีกหลายอย่างที่ต้องช่วยเหลือ

“เกษตรกรขาวสวนยาง 1.8 ล้านราย โครงการนี้จะช่วยให้ชาวสวนยางเกิดความมั่นใจในการประกอบอาชีพ และลดความเสี่ยงจากการขาดรายได้ในการปลูกยาง ส่วนชาวนามี 4.56 ล้านครัวเรือน รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรทุกคนทุกท่านแต่จะช่วยกันอย่างไรในอนาคตเพื่อไม่ให้ปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้มากจนเกินไป จนรัฐบาลก็มีปัญหา เพราะมาตรการทางภาษีทำให้รัฐบาลเก็บรายได้ลดลงจึงต้องดูสถานการณ์ไปก่อน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญวันนี้ทำอย่างไรให้ธุรกิจที่มีโอกาส มีศักยภาพอยู่ที่ไม่ใช่บริการท่องเที่ยวอย่างเดียวสามารถดำเนินการต่อได้ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนด้านรายได้ มีเงินหมุนเวียนในระบบ นอกจากนี้ ที่ได้รับแจ้งมาคือ มาตรการคนละครึ่ง มาตรการเราเที่ยวด้วยกันได้รับความนิยม ได้สั่งการว่าเมื่อวงเงินยังเหลืออยู่จะทำต่อไป ปรับปรุงให้ได้มากขึ้นหรือไม่ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของรัฐกับประชาชนช่วยกัน ต่อไปจะมีภาคธุรกิจเอกชนร่วมกันได้ไหม เช่น ธุรกิจสายการบิน รัฐบาลจะหามาตรการที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ขณะนี้เรามั่นใจระบบสาธารณสุข เราทำได้ดีมากแต่ยังประมาทไม่ได้” นายกฯ กล่าว

ใช้สภาหาทางออก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนรับฟังความคิดเห็นของทุกพวก ทุกฝ่าย แต่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้กลไกในการบริหารปกติ กลไกรัฐสภาแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลต้องยึดมั่น อาศัยกระบวนการยุติธรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก้าวล่วงซึ่งกันและกันไม่ได้ ขอความร่วมมือของทุกคนในประเทศนี้ด้วย ขอบคุณในการต้อนรับของประชาชนภาคใต้ ทั้งสมุยและภูเก็ต ทำให้ตนได้เห็นถึงความรักความสามัคคี ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่แสดงออกมา ทำให้ตนรู้สึกตื้นตัน แม้กระทั่งประชาชนในกรุงเทพฯ ที่ทุกคนได้แสดงเจตนาถึงความบริสุทธิ์ ที่จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัยทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง และทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยความสงบเรียบร้อย เริ่มต้นด้วยสิ่งที่ถูกต้องมีวัฒนธรรม อัตลักษณ์และประเพณี ซึ่งจะทำให้ชาติเราเข้มแข็ง