“ชวน” ตั้งใจเชิญ “พล.อ.สุรยุทธ์” ประธานองคมนตรี หาทางออกประเทศ

ชวน-สุรยุทธ์

“ชวน หลีกภัย” ไม่สนม็อบราษฎรไม่ร่วมสังฆกรรม คณะกรรมการสมานฉันท์ ย้ำต้องเอาตามความสมัครใจ เตรียมเชิญ “พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์” ร่วมหาทางออกประเทศในฐานะอดีตนายกฯ 

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เมื่อเวลา 08.15 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงท่าทีของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประกาศไม่เข้าร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า คณะกรรมการดังกล่าวยังไม่ได้มีการตั้งขึ้นมาโดยตอนนี้เป็นการติดต่อกับผู้ใหญ่เพื่อขอรับฟังความคิดเห็นในฐานะผู้มีประสบการณ์และผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มา หลายท่านให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์

และที่มาของคณะกรรมการสมานฉันท์นั้น เป็นการส่งลูกมาจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถ้าเราปฏิเสธไม่รับมาก็เหมือนกับการมองข้ามความสำคัญของการแก้ไข เราต้องทำการเมืองให้การเมืองในระบอบรัฐสภามีความมั่นคงและไม่มีปัญหามากเกินไป เกิดความรุนแรงและการประทุษร้าย

“ไม่มีอะไรแก้ได้ร้อยทั้งร้อย แต่ถ้าเราลดลงมาได้ก็เป็นประโยชน์ คนรุ่นก่อนก็มีความขัดแย้ง เช่น มาจากการเลือกปฏิบัติ การแบ่งพรรคแบ่งพวก การใช้สื่อวิทยุชุมชนให้ร้ายไปถึงสถาบันหรือบุคคล หรือขัดแย้งกันถึงขนาดที่เข้าจังหวัดไม่ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องทบทวนและแก้ไข เพื่อรองรับอนาคตที่เปลี่ยนแปลง” นายชวนกล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า การจะเชิญบุคคลใดมาเป็นกรรมการนั้นไม่ได้ง่าย เพราะผู้ใหญ่ที่ตนคุยด้วยไม่ได้หมายความว่าจะเข้ามาเป็นกรรมการ แต่พวกท่านเห็นด้วยกับการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ซึ่งรายละเอียดต้องหารือกันอีกครั้ง

เมื่อถามว่า มีความจำเป็นหรือไม่ที่คณะกรรมการชุดนี้จะต้องมีกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาร่วมด้วย นายชวนกล่าวว่า ต้องเอาความสมัครใจ ที่ตนเชิญนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐาะนประธานวิปฝ่ายค้าน มาคุยเมื่อวันที่ 3 พ.ย. เพราะตอนนั้นฝ่ายค้านประกาศก่อนว่าจะไม่เข้าร่วมด้วย จึงขอคำยืนยันจาก นายสุทิน ซึ่งนายสุทินบอกว่าขอดูแนวทางก่อน แต่วันนั้นเรื่องใหญ่ คือ ความเห็นของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งประธานวุฒิสภาให้ความเห็นในทางที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ความขัดแย้งในเรื่องนี้ลดลงไปมาก

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้เห็นภาพของประธานสภาไปพบกับกลุ่มเยาวชนเพื่อให้เข้ามาร่วมกระบวนการสมานฉันท์ นายชวนกล่าวว่า คิดว่าใครที่เต็มใจก็จะไปคุยด้วย แต่สมมุติถ้าเรามีคณะกรรมการ แล้วจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ผมมีหน้าที่ดูว่าจะเอารูปแบบอะไร จะคัดใครเข้ามาควรเอาคนประเภทใด มองปัญหาอย่างไร แต่ไม่ถึงขั้นที่ตนไปเป็นประธานเอง

“เราตั้งใจเอาคนที่มีความตั้งใจที่จะเห็นการปรองดอง แต่ใครที่ยื่นคำขาดมาก็เป็นเรื่องของเขาไป และเราก็จะทำงานในส่วนของเราไป ผมบอกเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าไปแล้วว่าให้แยกระหว่างเรื่องการชุมนุมกับเรื่องอนาคต” นายชวนกล่าว

เมื่อถามถึงการหารือกับอดีตนายกรัฐมนตรีนั้นได้หารือครบทุกคนหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ยังติดต่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ไม่ได้ ซึ่งตั้งใจจะพูดกับทุกคน แม้แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะอดีตนายกฯ ก็จะไปกราบเรียนในฐานะท่านเป็นผู้ใหญ่เช่นกัน แต่สำหรับนายธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตนายกฯ นั้นต้องดูก่อนว่าสุขภาพท่านไหวหรือไม่ แต่จะลองไปสอบถามดูเพราะตนรู้จักกับครอบครัวท่าน

ประธานรัฐสภากล่าวว่า การเดินสายหารือขอความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการเมืองนั้นไม่ได้เจาะจงเฉพาะอดีตนายกฯเท่านั้น แต่ตั้งใจจะคุยกับอดีตประธานสภาด้วย ขณะเดียวกัน การจะมีคู่ขัดแย้งเข้ามานั่งในคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่นั้นไม่ได้เป็นเงื่อนไขของเรา จึงเป็นที่มาของการกำหนดรูปแบบของคณะกรรมการไว้หลายลักษณะ ซึ่งตอนนี้พยายามประสานงานกับบุคคลหลายฝ่าย ทั้งนี่เราตั้งใจจะเอาคนที่มีความประสงค์มาร่วมมองการแก้ไขในวันข้างหน้าร่วมกัน ไม่ใช่เอามาทะเลาะกัน


เมื่อถามว่า การที่จะไปหารือกับประธานองคมนตรีแสดงว่าจะมีการหารือในเรื่องสถาบันด้วยหรือไม่ นายชวนกล่าวว่า “ไม่ครับ ขอเรียนว่าตั้งใจจะไปกราบเรียนท่าน ในฐานะท่านมีประสบการณ์ไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน และไม่มีเหตุผลไปคุยเรื่องนั้น แต่หารือกับท่านในฐานะอดีตนายกฯคนหนึ่ง”