โฆษกรัฐบาล แปลแถลงการณ์เด็ดขาดของนายกฯ กรณี ม.112

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ภาพ : ทำเนียบรัฐบาล : นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โฆษกรัฐบาล ขยายผลแถลงการณ์นายกรัฐมนตรี  กรณี ม.112 ให้ตำรวจทำหน้าที่ตามกฏหมาย

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ยกระดับการใช้กฎหมายเข้มข้นกับผู้ชุมนุม ว่า เรื่องความสงบภายในประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้ดูแลและบังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการตามบทบัญญัติที่มีอยู่

จึงจำเป็นต้องแจ้งให้กับทุกคนทราบว่า จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะต้องเคร่งครัดมากขึ้น เพื่อรักษาระเบียบและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ แถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีก็เพื่อต้องการเน้นย้ำในประเด็นนี้ ไม่ใช่ขู่ว่าจะใช้ความเข้มข้นมากขึ้น

เมื่อถามว่าถึงเวลาจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษอีกครั้งหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ใช้กฎหมายปัจจุบันที่มีอยู่ แต่ที่ผ่านมามีการผ่อนปรนไปบ้าง ก็จะเอากฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมาบังคับใช้ก่อน

“เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการใช้กฎหมายเข้มข้น แต่เป็นการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่มากกว่า เพราะจากเดิมที่มีการผ่อนปรน ไม่ใช่ว่าจะเข้มข้นขึ้น แต่จากที่เคยผ่อนปรนมา จากนี้ไปก็จะดำเนินการตามบทบัญญัติของกฎหมายที่มีอยู่” โฆษกรัฐบาล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีเหมือนชักธงรบกับกลุ่มผู้ชุมนุม โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า อย่าเรียกเป็นการชักธงรบ เพราะอย่าลืมว่าเมื่อมีผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องระงับเหตุตามปกติ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ระงับเหตุประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเขาก็ได้รับผลกระทบ

ก็จะมีประเด็นว่าทำไมตำรวจไม่ดูแล และบังคับใช้กฎหมายเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่เรื่องของการปะทะ วันนี้ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เห็นแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องรับทราบว่าทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย อะไรที่ไม่ควรบาง หรือครั้งอาจจะล้ำเส้น แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเตือนแล้วแต่ก็ยังไม่สนใจ ก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น

เมื่อถามว่ากรณีนายนิติพงษ์ ห่อนาค (ดี้) นักแต่งเพลงเสนอให้ใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 มาบังคับใช้ นายอนุชา กล่าวว่า วันนี้เอาเฉพาะในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ก่อนตามแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรี ส่วนใครที่รู้ตัวว่าทำผิดกฎหมาย ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามหน้าที่ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกกล่าวหาว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมระมัดระวังในการชุมนุมให้เป็นไปอย่างสงบ

“ในส่วนของนายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากแถลงการณ์ และจะไม่มีการดำเนินการอะไรนอกเหนือจากกฎหมายที่มีอยู่ จึงขอให้ผู้ชุมนุมหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะก่อให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะขณะนี้มีหลายกลุ่มที่กังวลและอาจแสดงออกในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่หน้าอาคารรัฐสภา รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเป็นประเด็นปัญหาขึ้นมาอีก” นายอนุชา กล่าว


เมื่อถามว่าวันนี้รัฐบาลกลายเป็นจำเลยถูกมองว่าปล่อยให้เกิดม็อบชนม็อบ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จึงต้องมีการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามบทบัญญัติที่มีอยู่ ส่วนที่กลุ่มราษฎรประกาศนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งวันที่ 25 พ.ย. ที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้น ขอยังไม่พูดถึงจุดนี้ ขอแค่สถานการณ์ปัจจุบันก่อน