ม็อบนักเรียนเลว เปิดเวที เผยผู้อยู่เบื้องหลัง ลั่นต้องแก้รัฐธรรมนูญ

กลุ่มนักเรียนเลว เปิดเวที เผย “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ เป็นอยู่เบื้องหลังม็อบ  ไม่รับรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ลั่นรัฐธรรมนูญต้องแก้

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “นักเรียนเลว” ภายหลังย้ายสถานที่จัดจากแยกราชประสงค์มายังใต้สถานีรถไฟฟ้าสยาม ว่าการ์ดม็อบได้กั้นถนนพระรามที่ 1 พร้อมนำแผงเหล็กมาปิดถนนเพื่อไม่ให้รถผ่านเข้าออก โดยมีตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน คอยอำนวยความสะดวกจราจร พร้อมเร่งระบายรถออกนอกพื้นที่ ซึ่งการจราจรค่อนข้างติดขัด ขณะเดียวกันมวลชนได้นำรถบรรทุกโครงเหล็กสำหรับตั้งเวทีเข้ามาในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่ปรากฏแกนนำแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ รปภ.ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้เตรียมแผงเหล็กตั้งเป็นแนวกั้นและมัดด้วยลวดสะลิงเพื่อความมั่นคงมาตั้งไว้บริเวณนอกอาคารศูนย์การค้า หลังกลุ่มนักเรียนเลวย้ายสถานที่จัดกิจกรรมมายังใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม

ต่อมา เวลา 18.03 นา มติชนออนไลน์รายงานว่า ระบุว่า “เพลง” ตัวแทนนักเรียนหญิง กล่าวปราศรัยหัวข้อ “ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังม็อบ”  โดยกล่าวว่า เป็นเพียงนักเรียนธรรมดาที่ได้ฟังคำปราศรัยของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ คือคุณณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เคยอภิปรายในสภาว่าม็อบนักเรียนต้องมีเบื้องหลังเพราะว่าม็อบไม่ได้ขับรถห้องน้ำมาเอง สุดยอดมาก คาใจมาก อยากรู้จริงๆ ว่าใครกันแน่อยู่เบื้องหลังม็อบนี้ นักเรียนจะปิดราชประสงค์ ปิดสยามได้อย่างไร สงสัยมากจึงไปหาคำตอบ วันนี้จะมาเฉลยข้อสอบบทนี้ให้เพื่อนๆ ประชาชนได้ฟัง ตลอดการปราศัย มีการร้องเพลง “หัว ไล่ ตูด” ด้วย

“เพลง” จึงกล่าวต่อว่า ทุกคนอาจสงสัยว่า “หัว-ไหล่-ตูด” คืออะไร เริ่มจากหัวคือ เราเกิดมาต้องพัฒนาการศึกษา จากนั้นเราจะพัฒนาไปยังจุดที่ต้องการ แต่การศึกษาไทยและหลักสูตรไม่ตอบโจทย์ ไม่คู่ควรกับสมองของเยาวชน หลักสูตรการศึกษาไทยมีปัญหา รมต.กระทรวงพยายามยัดอะไรไม่รู้มาให้เรา

ขั้นแรกของเผด็จการคือ การยัดอะไรก็ได้ไม่ให้ประชาชนใช้สมองของตนเอง จะทำอย่างไรให้เด็กศึกษาแล้วรู้ว่า ตัวเองไม่มีสิทธิ มีเสียง มีคุณค่า เป็นมดงานให้เผด็จการต่อไป และที่ผ่านมา คือการยัดเยียดค่านิยม 12 ประการ เขาคิดว่าเราไม่มีสมอง เป็นได้แค่เครื่องจักร ยัดอะไรลงไป ก็จะโตไปตามนั้น คิดว่าป้อนคำสั่งนี้เข้าไป ต้องรักคนนั้น ต้องรักคนนี้ เชื่อฟังอย่างนี้ ถ้าได้ผล คงไม่มีเราในวันนี้

“ปัญหาหัว คือปัญหาของคนที่พยายามกดหัวเรา แต่เราไม่ยอม เพราะเรามีหัว”

“ไหล่” เวลาเด็กจะไปโรงเรียน แต่งชุดนักเรียน สะพายกระเป๋าที่บ่า นี่คือภาระอันหนักอึ้งของนักเรียนไทยว่านักเรียนคนไหนต้องสะพายอะไรบางอย่างไว้ที่บ่า ที่ผู้ใหญ่คาดหวังให้เราเป็น ให้เราสอบติด คาดหวังว่าเด็กจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ แต่โรงเรียนพึ่งพาไม่ได้ เด็กที่ได้เรียน 8 ชั่วโมงเต็ม โชคดี เพราะครู ถูกดึงไปด้วยภาระการงาน โรงเรียนสีเขียว สีม่วง สีเต็มไปหมด มีภาระงานที่ไม่ใช่การสอน อ่านหนังสือไป ทำแบบฝึกหัดไป แต่ไม่ได้มีคุณค่าอะไร

สุดท้ายต้องเดินเข้าตึกไปเรียนพิเศษ แรกๆ มีแต่มัธยม ไปๆ มาๆ มีเด็กประถม นี่คือปัญหาของคนที่พอมีจ่าย เม็ดเงินไหลเข้ากวดวิชาเยอะมาก ติวเตอร์มีเงินมากถึงขั้นซื้อตึกได้ แต่ยังมีอีก 65 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่มีโอกาส กำหนดว่าการศึกษาคือหน้าที่ของรัฐ แต่รัฐเคยทำหน้าที่ตัวเองหรือไม่

สุดท้าย “ตูด” เวลาเราไปโรงเรียน ทำอะไรขัดใจครู โดนตีที่ก้น คือปัญหาการละเมิดสิทธิ เราเกิดมาเป็นประชาชน พร้อมสิทธิ เสรีภาพ ใครละเมิดไม่ได้ กฎหมายสูงสุดของประเทศกำหนดไว้ว่าเรามีเสรีภาพ แต่สิ่งที่เกิดคือผู้มีอำนาจในกระทรวง กำหนดว่าต้องตัดผมแบบนี้ แต่งตัวแบบนี้ ถ้าไม่ทำตาม ลงโทษได้

“กฎกระทรวงเป็นกฎลำดับชั้นที่ต่ำมาก แต่ว่าสามารถถือเหนือกฎหมายสูงสุดของประเทศได้ ทำทุกอย่างให้ศักดิ์สิทธิ์ แต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายสูงสุดของประเทศไม่ศักดิ์สิทธิ์ นี่คือ เบื้องหลังม็อบ รัฐธรรมนูญที่กดหัว ใครขัดขืนเจตจำนงประชาชน ใครที่เมื่อประชาชนทำตามกติกา ลงชื่อ ถ่ายบัตรเอกสารประชาชน เสนอชื่อ ถูกคว่ำ ดิฉันคิดว่า เครื่องซีรอกซ์ของไอลอว์ ทำงานหนักกว่ารัฐมนตรีอีก และสิ่งที่ ส.ส. ส.ว. คนเหล่านั้นทำ คือล้มล้างรัฐธรรมนูญของประชาชน เราจึงต้องออกมาแสดงพลังว่า เราไม่พอใจต่อสิ่งนี้”

เพลง กล่าวต่อไปว่า “หนึ่งในคนที่ลงมติไม่ยอมรับการแก้ไข คือคุณณัฏฐพล คุณนั่นแหละคือเบื้องหลังม็อบ เด็กและประชาชนคือส่วนเดียวกัน แต่ถูกจำกัดด้วยกฎหมาย ไม่สามารถลงประชามติได้ ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เด็กต้องมีส่วนร่วมสร้าง ขอเผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ขอให้เรามีชัย และมีร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไปพร้อมกัน”