กรณ์ ชี้จุดบอด “คนละครึ่ง” คนจนเข้าไม่ถึงสิทธิ์-ร้านค้าหมุนเงินไม่ทัน

กรณ์ จาติกวณิช

“กรณ์-หัวหน้าพรรคกล้า” ติง โครงการ “คนละครึ่ง” ประชาชนหลายคนเข้าไม่ถึงสิทธิ์ ส่วนร้านค้า “หมุนเงินไม่ทัน” ชม เงินรั่วไหลน้อย เงินไม่ผ่านมือนักการเมือง-ข้าราชการ

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวถึงโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ว่า ในมุมมองของผม โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เพราะเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจตามหน้าที่ของรัฐบาล โดยที่มีการออกแบบมาให้ผู้ได้ประโยชน์เป็นร้านค้าขนาดเล็ก (ร้านใหญ่เข้าร่วมโครงการไม่ได้) และเป็นสิทธิที่ให้กับประชาชนทั่วไป ผลของโครงการคือกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ

“ข้อต้องปรับปรุง คือ ประชาชนหลายคนเข้าไม่ถึงสิทธิ เพราะขึ้นทะเบียนไม่ทัน และคนยากจนจริงๆหลายคนไม่มี smartphone จึงถูกตัดสิทธิโดยปริยาย”นายกรณ์กล่าวและ ว่า ส่วนร้านค้าหลายร้านบอกผมว่าเขาไม่เข้าโครงการนี้เพราะเขาต้องหมุนเงินทุกวัน รอการโอนเงินเข้าบัญชีข้ามวันไม่ได้ ประเด็นเหล่านี้ต้องช่วยกันคิดว่าจะมีวิธีอุดช่องว่างอย่างไร

นายกรณ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องการใช้เงินกู้ผมอธิบายว่า งบประมาณโดยรวมเป็นงบขาดดุล ดังนั้นตามจริงก็คือทุกเรื่องที่รัฐบาลทำก็คือใช้เงินกู้และเงินภาษีคละกันไป เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นการใช้เงินกู้ผมมองว่าไม่ใช่สาระสำคัญ

“สิ่งที่สำคัญก็คือเป็นการใช้เงินที่คุ้มค่าหรือไม่ รั่วไหลหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ผมว่าคุ้มกว่าการใช้เงินในหลายโครงการของรัฐบาลและราชการ การรั่วไหลก็น้อยมาก เพราะเงินไม่ผ่านมือนักการเมือง ราชการ หรือคนกลาง ส่วนคำถามว่าเป็นธรรมหรือไม่นั้น ก็เป็นธรรมมากกว่าอีกหลายโครงการ (ตามเหตุผลที่อธิบายแล้ว) แต่ยังไม่ 100%”

นายกรณ์ทิ้งท้ายว่า นอกจากนั้นการพัฒนา App ‘เป๋าตัง’ นี้สามารถนำไปขยายผลได้อีกหลายเรื่องที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมไปถึงการสร้าง e-commerce platform ของไทย ที่จะช่วยให้เรามีช่องทางการนำสินค้าของประชาชนสู่ผู้บริโภคได้โดยตรง