ธนาธร ปิยบุตร ช่อ ส่ออาญา 42 อบจ.คณะก้าวหน้า เสี่ยงแพ้ฟาล์ว

ธนาธร-ปิยบุตร-ช่อ .

กกต.รับลูกคำร้อง “ศรีสุวรรณ” สอบ “คณะก้าวหน้า” มีลักษณะคล้ายพรรคการเมือง 42 ผู้สมัคร อบจ. เสี่ยงแพ้ฟาล์ว

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 มีรายงานว่าที่ประชุมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีการเคลื่อนไหวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในนามคณะก้าวหน้า ที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัคร

ว่าเข้าลักษณะเป็นพรรคการเมือง ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 111 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดว่าผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่มีลักษณะคล้ายกับพรรคการเมือง อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งอาจต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี หลังพิจารณาข้อมูลหลักฐานตามที่ด้านกิจการพรรคการเมืองของสำนักงานกกต. รวบรวมเสนอแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักพอสมควรที่ กกต.จะดำเนินการต่อไปตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสอบสวนและไต่สวนได้

ทั้งนี้ หากการสืบสวน กกต.พบว่า การดำเนินการดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นความผิดตามมาตรา 111 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 ซึ่งไม่เพียงต้องมีการดำเนินคดีอาญาบุคคลทั้ง 3 แล้ว

ยังอาจมีผลไปถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. ที่หากผลการสืบสวนพาดพิงไปว่านำไปสู่การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ก็สามารถนำผลการสืบสวนไปดำเนินการตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นได้ เช่น กกต.สั่งระงับสิทธิสมัครของผู้สมัครไว้เป็นการชั่วคราว หรือใบส้ม รวมถึงการสั่งเลือกตั้งใหม่ หรือใบเหลืองได้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 111 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญพรรคการเมือง 2560 ระบุว่า ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดําเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดําเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใดให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยมิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนด 5 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนคณะผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าทั้งหมด รวมทั้งผู้สมัคร นายก อบจ. และ ส.อบจ. ทั่วประเทศในนามคณะก้าวหน้า ว่าเข้าข่ายสมคบกันในการดำเนินกิจการเช่นเดียวกันกับพรรคการเมืองหรือไม่ อย่างไร หากพบว่าผิด กกต.จะต้องดำเนินการเอาโทษทางกฎหมายและเพิกถอนสิทธิในการสมัคร อบจ.ต่อไป

ทั้งนี้ คำร้องของนายศรีสุวรรณ ระบุถึงกรณีที่ นายธนาธร นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ ร่วมกันตั้งคณะก้าวหน้าขึ้นมา โดยมีการกำหนดตำแหน่งประธาน กรรมการ และเลขาธิการ โดยมีภาพเครื่องหมายของคณะเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เฉกเช่นเดียวกับพรรคการเมือง


เช่น การจัดประชุมเปิดตัวผู้สมัคร ส่งคนสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.และ สมาชิก อบจ.กว่า 40 จังหวัด ซึ่งเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปนั้น พฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าวของนายธนาธร นายปิยบุตร และ น.ส.พรรณิการ์ กับพวก จึงเป็นการสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง จึงอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ดังกล่าว