กกต. สั่งเวิร์กฟรอมโฮม 5-31 ม.ค. เข้มไปจุดเสี่ยงลงโทษทางวินัย

กกต.สั่งเจ้าหน้าที่เวิร์กฟรอมโฮม 5-31 มกราคม งดจัดการประชุม สัมมนา ย้ำหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งลงโทษทางวินัย

วันที่ 4 มกราคม 2564 พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงาน กกต. กล่าวภายหลังประชุมคณะทำงานติดตามและเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของสำนักงาน กกต.ว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดฯที่ประชุมเห็นควรออกกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ โดยให้มีการปรับเวลาการทำงานของเจ้าหน้าที่และพนักงาน กกต.เป็น 09.00 – 15.00 น.

และให้แต่ละสำนักฯ จัดพนักงานมาปฏิบัติงานที่สำนักงานตามความจำเป็นเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อภารกิจที่ต้องปฏิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องการพิจารณาสำนวนร้องเรียนร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด

“พนักงานอีกส่วนหนึ่งก็ให้ปฏิบัติงานจากที่พักอาศัย ซึ่งก็จะไม่ให้แต่ละคนปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยนานหลายวัน โดยพนักงานที่ปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยจะต้องรายงานตัวผ่านทางแอปพลิเคชั่นที่สำนักงาน กกต.เตรียมไว้ และรายงานผลการปฏิบัติงานในแต่ละวันให้ผู้บังคับบัญชาทราบ”

“ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็จะต้องมีการติดตามดูแลการทำงานอย่างใกล้ชิด เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่และพนักงานปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยเท่านั้น รวมทั้งปฏิบัติตามคำสั่งของ ศบค. และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด และการไปในสถานที่แออัด หากพบว่าพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว ก็อาจมีโทษทางวินัยได้”

นอกจากนี้ยังให้งดการประชุมสัมมนา ที่มีการรวมกลุ่มของคนจำนวนมากตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนด โดยเบื้องต้นให้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 – 31 มกราคม 2564

ทั้งนี้ รวมถึงสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทุกแห่ง ซึ่งให้เป็นดุลยพินิจของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยพิจารณาตามประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละจังหวัดประกาศ