วิษณุ แจง ประยุทธ์ ยึดอำนาจผู้ว่า ลุ้นประกาศเคอร์ฟิว

วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เนติบริกร แจง ประยุทธ์ หัก ผู้ว่าฯ กทม. งดกินข้าวนอกบ้านหลัง 1 ทุ่ม ป้องกันถูกฟ้อง แย้มเตรียมตัว 1 ยกระดับความเข้มข้นคุมโควิด ยึดอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดคืน-ประกาศเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน กรณีล็อกดาวน์ 5 จังหวัดภาคตะวันออก

ได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ว่า แปลว่าอะไร ผมไม่รู้ว่าเรียกว่าล็อกดาวน์หรือไม่ แต่ความหมายก็คือได้มีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นสำหรับ 5 จังหวัดดังกล่าวเท่านั้น ซึ่งมันไม่ถึงขนาดเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ มันจึงไม่เหมือนเมื่อครั้งที่เราล็อกดาวน์ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีเรื่องกำหนดเวลา เดี๋ยวรายละเอียดให้เขาแถลงต้องเอาเข้า ครม.ก่อน ส่วนเรื่องเคอร์ฟิว (ห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด) ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้

“อย่าไปพูดว่าล็อตนี้จะไม่มี (เคอร์ฟิว) ขณะนี้ นายกรัฐมนตรีใช้คำว่าระยะที่ 1 ระยะที่ 1 คือ ระยะนี้ ถ้าหากไปถึงจุดหนึ่ง ระยะที่ 2 อาจจะต้องเพิ่มความเข้มข้นขึ้น เราไม่ได้พูดว่าจะต้องรอ 14 วัน เพราะเมื่อระยะที่ 2 เมื่อไหร่เราก็จะใช้ระยะที่ 2 แหละ ซึ่งระยะที่ 2 ประเมินจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีมากขึ้นในแต่ละแห่งที่เป็นจุดสีแดง และจุดที่เป็นสีเหลืองและสีส้มได้เปลี่ยนเป็นจุดสีแดงมากขึ้น และใช้คำว่า ทวีความรุนแรง รวดเร็ว ถ้ามันยังช้าอยู่ 14 วัน 28 วัน ยังพอจะคุมอยู่ แต่ถ้ามันเร็ว พรึ่บ ๆ ๆ ๆ วันนี้ (ผู้ติดเชื้อ) 200 คน พรุ่งนี้ 400 คน มะรืน 600 คน อย่างนั้นก็แสดงว่า เตรียมตัวได้แล้วครับ”

เมื่อถามย้ำว่าระยะที่ 2 มีโอกาสจะประกาศเคอร์ฟิวใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ประเมินว่ามีโอกาสที่จะมีความเข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าระยะที่ 1

นายวิษณุกล่าวถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) ว่า ไม่ได้พิจารณาล็อกดาวน์ พิจารณามาตรการที่ ศบค.เสนอเมื่อวานนี้ ( 4 มกราคม 2564) ซึ่งมีหลายเรื่อง ให้ใช้คำว่าสั้น ๆ อย่างนี้แล้วกันว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการใช้มาตรการระยะที่ 1 ซึ่งมีความหนักและเบา รุนแรงและไม่รุนแรงในแต่ละพื้นที่สลับกันไป เมื่อครั้งโควิด-19 ระบาด 1 ปีที่ผ่านมาได้อำนาจมาอยู่ที่ ศบค. ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“แต่ครั้งนี้เราคืนอำนาจกลับไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพียงแต่มีข้อความที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีความมั่นใจว่า ท่านจะไม่ถูกฟ้อง และจะได้รับความคุ้มครอง และใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าไปคุ้มครองให้ท่านไปออกคำสั่ง แต่ไม่ได้สั่งตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินเลย ทำให้เกิดปัญหาความลักลั่นกันในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน”

นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้ให้เป็นแบบนี้ไปก่อนในระยะที่ 1 เมื่อวานในที่ประชุม ศบค.ก็มีการพูดกันว่า มันจะลักลั่นกัน เช่น อันนี้ 2 ทุ่ม อันนั้น 4 ทุ่ม อันนั้น 6 ทุ่ม ขณะเดียวกันประชาชนจังหวัดมาติดต่อกันการเดินทางข้ามจังหวัดประชาชนก็ไม่รู้ว่าขณะนี้อยู่ในโซนที่ใช้คำสั่งผู้ว่าฯ คนไหน เพราะฉะนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปสักระยะหนึ่งและปรับเข้าไปสู่มาตรฐาน ซึ่งระยะที่ 2 ก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ เรียกอำนาจกลับคืนมาเป็นของนายกรัฐมนตรีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนเรื่องมาตรการเยียวยายังไม่มีการพูดถึง