“สุดารัตน์” แนะ “ประยุทธ์” ตรวจโควิดฟรี หาผู้ติดเชื้อเข้าระบบรักษา  

“สุดารัตน์” แนะรัฐบาล เร่งใช้เงินกู้โควิด เยียวยาแรงงาน 13 ล้านราย ให้คนตรวจโควิด -19 ฟรี สำหรับคนที่สงสัยว่าติดเชื้อ

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหาโควิด – 19 ว่า การระบาดรอบใหม่น่าวิตกกว่าการระบาดในรอบแรก เพราะจุดแพร่เชื้อมีปริมาณที่มากกว่า เพราะการระบาดครั้งแรกในปี 2563 มีการระบาดที่สนามมวย กับ สถานบันเทิง แห่งละประมาณ 60 กว่าคน

ประกอบกับการปิด กทม.ทำให้คนกระจายออกไปทั่วประเทศ แต่รอบใหม่จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาด 500 กว่าคน ที่สมุทรสาคร และในบ่อนการพนันหลายแห่ง  200 – 300 คน ดังนั้น จึงมีจุดที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อใหญ่ๆ 3-4 แห่ง

แต่จากมาตรการของรัฐบาลเราทำผิดซ้ำ เพราะเมื่อเราเจอแหล่งรังโรคใหญ่แล้ว ไม่ยอมที่จะล็อกดาวน์จริงๆ กลับไปห้ามคนทำมาหากิน แต่ยังให้คนเดินทางออกจากพื้นที่เพื่อให้ไปแพร่เชื้อในที่อื่นๆ อีก ทำให้การสยบของโรคเป็นไปได้ช้าขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สิ่งที่ควรจะทำคือ ล็อกพื้นที่เล็ก ๆ ที่เป็นแหล่งรังโรค หาเชื้อให้เร็วที่สุด จับคนทิ่ติดเชื้อเข้าระบบให้เร็วที่สุด หลายโรงพยาบาลเรียกร้องเรื่องการหาเชื้อแล้วเบิกค่าตรวจได้ ยังเป็นเกณฑ์ที่สูงอยู่ เช่น ต้องผ่านจังหวัดที่เสี่ยง แต่ในความเป็นจริงเชื้อวิ่งมาหาตัวแล้ว ควรที่จะเปิดให้มีการตรวจโควิด-19 ฟรี ในประชาชนที่มีความสงสัยตนเอง เพื่อนำคนติดเชื้อเข้าระบบให้มากที่สุด

“วันนี้การตรวจน้อย อาจดูว่าผู้ติดเชื้อน้อย จะทำให้เราเจ็บนาน แต่ถ้าเรายอมตรวจเยอะ เมื่อเจอผู้ติดเชื้อเยอะ ยิ่งนำเข้าระบบการรักษามากเท่าไหร่ ทำให้ประชาชนปลอดภัยมากเท่านั้น”

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ต้องเร่งเยียวยาเศรษฐกิจ เพราะก่อนหน้าโควิด -19 คนแย่ติดพื้นอยู่แล้ว มาเจอโควิด -19 รอบสอง ไม่มีต้นทุนเหลือ จะขาดลมหายใจแล้ว

ดังนั้น เมื่อเงินที่กู้มายังเหลือ จะต้องเยียวยาเพื่อพยุงไม่ให้คนตกงานมากขึ้น อาจช่วยจ่ายค่าแรงผ่านผู้ประกอบการ เพื่อไม่ให้ปลดคนงาน รวมถึงพยุงผู้ตกงานไปแล้ว ให้รอดชีวิตใน 5 เดือนจากนี้ และยังต้องรักษาผู้ประกอบการรายกลาง รายเล็กเอาไว้ ต้องมีการปรับเกณฑ์กู้เงิน โดยเฉพาะเงินกู้ที่เยียวยาผู้ประกอบการมีการใช้ไปแล้วน้อยมาก  ผู้ที่เดือดร้อนกลับไม่ได้ใช้

“ผู้ประกอบการ SMEs มี 3 ล้านราย จ้างแรงงาน 13 ล้านคน ถ้ามีคนดูแลในครอบครัวก็เพิ่มเป็น 26 ล้านคน อยากให้รัฐบาลโฟกัสในจุดนี้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว