รวมวีรกรรม “ไส้ศึก” เพื่อไทย ข้อสอบรั่ว มวยล้ม แปรพักตร์ ซ้ำรอยศึกซักฟอก

พรรคฝ่ายค้านตีปี๊บ ลั่นกลองรบ-เปิดศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จองกฐินซักฟอก “รัฐบาลประยุทธ์กับพวก” ล่วงหน้า ก่อน “เดดไลน์” รัฐสภาปิดสมัยประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 2 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564

ทว่า “ทิงเจอร์” ที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมไว้ราด “แผลสด” รัฐบาลประยุทธ์ กลับ “หมดอายุ” เพราะ “หมัดเด็ด” เปิดโปง “เมกะโปรเจ็กต์ประชารัฐ” การบริหารราชการแผ่นดิน “ล้มเหลว” ถูก “เฉลยข้อสอบ” ก่อนนักเรียนจะเข้าห้องสอบเสียอีก

ทั้งโครงการอีอีซี-เอื้อนายทุน “เงื้อง่าราคาแพง” มาตั้งแต่การอภิปรายรอบที่แล้ว มหากาพย์ต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว และปัญหาบ่อนการพนัน-แรงงานต่างด้าวเถื่อน ต้นตอการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอกสอง

วีรกรรมใต้ดินของเพื่อไทย-พรรคผู้นำฝ่ายค้านจึงเต็มไปด้วยการ “เขียนเสือให้วัวกลัว” เพื่อ “ปั่นราคา” ค่าหัว

“งูเห่า” ซื้อกระดาษคำตอบ เพราะสุดท้ายการตรวจสอบ “รัฐบาลประยุทธ์” กลายเป็นพลอตเรื่อง-ฉากจบ “ฉลาดเกมส์โกง”

นับตั้งแต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา พรรค-เพื่อนฝ่ายค้าน “เอือมระอา” กับพฤติกรรม “แทงข้างหลังเพื่อน” ของพรรคเพื่อไทย หลังจากถูกวิจารณ์ว่า “ข้อสอบรั่ว”

แม้การตั้ง “คณะกรรมการกิจการพิเศษพรรค” ดึง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” อดีตมืออภิปราย-ฝีปากกล้ามา “คุมเกมซักฟอก” ทว่า “สนิมเนื้อในตน” ของพรรคเพื่อไทย ทำพรรคร่วมฝ่ายค้านเสียขบวน-ล้มคว่ำไม่เป็นท่า

ทั้งการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ ปม “ขายที่ดินพ่อ” แลกผลประโยชน์กับ “เจ้าสัว” ของ “ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ส.ส.มหาสารคาม สายใกล้ชิดบ้านจันทร์ส่องหล้า ถูกวิจารณ์ว่าเป็น “มวยล้มต้มคนดู” กลายเป็น “ข้อสอบรั่ว”

โดยเฉพาะการ “ชักเข้า-ชักออก” ชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ 3 ป. ปม “หลังบ้าน” ท่ามกลางข่าว “เมกะดีล” เพื่อแลกกับ “คดีทายาทชินวัตร”

รวมถึงการไม่อภิปราย “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม-อดีตขุนพลคู่ใจทักษิณ ปม “เหมืองทองอัครา” โดยให้เหตุผลว่า การพิจารณาในชั้นอนุญาโตตุลาการ “คดียังไม่ถึงที่สุด”

นอกจาก “ข้อสอบรั่ว-แจกโพยคำตอบ” ให้ฝั่งรัฐบาลได้แง้มดูข้อสอบ-ตอบคำถามแล้ว การทรยศ-หักหลังพรรคร่วมฝ่ายค้าน-คนกันเองแล้ว ยังมีการ “แหกมติพรรค”

จนถูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ “บทลงโทษ” มีเพียง “คาดโทษ” โดยการ “ภาคทัณฑ์” ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมของพรรค-ไม่ส่งสมัครในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

รายแรก “พรพิมล ธรรมสาร” ส.ส.ปทุมธานี อยู่แสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาล ในการประชุมสภา คว่ำญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 ของฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562

รวมถึงการโหวตสวนมติพรรค-เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้ฝ่ายรัฐบาลเมื่อ 11 ม.ค. 2563

รายที่ 2 “พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ” ส.ส.กทม. อยู่แสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาลในการประชุมสภา คว่ำญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 เมื่อ 4 ธ.ค. 2562

รวมทั้ง “ไม่ประสงค์ลงคะแนน” ให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2563 ให้ฝ่ายรัฐบาล เมื่อ 11 ม.ค. 2563 แทน “งดออกเสียง” ตามมติพรรคฝ่ายค้าน โดยอ้างเหตุผลความจำเป็น-เหตุผลส่วนตัว

รายที่ 3 “ขจิตร ชัยนิคม” ส.ส.อุดรธานี อยู่แสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาลในการประชุมสภา คว่ำญัตติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคำสั่ง คสช. และมาตรา 44 ของฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562

ขณะที่พรรครัฐบาล-พลังประชารัฐ “อำมหิต” มากกว่า เพราะมีอดีตคนในพรรคเพื่อไทย-ขุนพลทักษิณที่รู้ตื้น-ลึก-หนา-บาง และ “กำพืด” งูเห่าที่ฝังตัวอยู่ในพรรคเพื่อไทย จนนำไปสู่การตีท้ายครัว บ้านชินวัตร-จันทร์ส่องหล้า

ทั้ง “วิรัช รัตนเศรษฐ” อดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัย เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งปี’54 และปี’57 ก่อน “สลับขั้ว” มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ จึงทำให้มีพรรค-พวก-เพื่อน-พ้องในเพื่อไทย

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย-ขุนพลทักษิณ ตัวจ่าย-เพลย์เมเกอร์ของพลังประชารัฐ “ฝากเลี้ยง” ส.ส.อีสานในพรรคเพื่อไทยเกือบ “ครึ่งพรรค” พร้อมเรียกใช้ “บริการเสริม” ได้ทุกเวลา ทั้งการยกมือโหวตสวน-สอดแนม-หนอนบ่อนไส้

“ส.ส.ที่ถอนชื่อ (ถอดถอนสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ) เพราะเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ ไม่ได้อะไร ฝ่ายค้านอ่อนแออย่างงี้ดี เลี้ยงไว้เป็นตุ๊กตา เราเป็นฝ่ายรัฐบาล อยากทำอะไรก็ทำ ทำอะไรข้าไม่ได้ซะอย่าง เวลายกมือเสียงมีนิดเดียว อภิปรายเพื่อรักษามวลชน” แกนนำพลังประชารัฐระบุ

แกนนำพลังประชารัฐรายเดิมระบุว่า พรรคฝ่ายค้านตอนนี้จึง “เป็นคุณ” กับรัฐบาล เป็นการ “สร้างความชอบธรรม” ให้กับรัฐบาล “ได้มีอะไรทำ”

“อภิปรายไม่ไว้วางใจต้องปล่อยให้ฝ่ายค้านปีละครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ต้องให้เขา (ฝ่ายค้าน) มั่ง ให้เขาได้แสดงหน่อย ไม่มีฝ่ายค้านเราก็แย่ ฝ่ายค้านไม่แข็งแรงมากก็ดี แข็งแรงมากก็ไม่ได้ ตอนนี้กำลังดี”