“กรณ์” ชง “2 ยัง” ยังไม่พอ-ยังไม่ครบ เติมสภาพคล่องคนตัวเล็ก ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี-มนุษย์เงินเดือน แนะหั่นงบโครงการไม่เร่งด่วน ถมเยียวยาสูงถึง 750,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊ก ถึงมาตรการเยียวยาของรัฐบาล โดยมองว่าเป็นมาตรการที่ยังไม่พอและยังไม่ครบ พร้อมเสนอแนวทางบริหารจัดการงบประมาณและมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม ว่า
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
อัดฉีดเงินช่วยคนตัวเล็กด่วน ชดเชยรายได้ให้ SME และไม่เก็บภาษีมนุษย์เงินเดือน
พรรคกล้ามองว่ามาตรการเยียวยาที่ประกาศออกมา”ยังไม่พอและยังไม่ครบ”
กลุ่มที่เดือดร้อน และถูกมองข้าม คือประชาชนตัวเล็ก และผู้ประกอบการ SME ที่เสียภาษีให้รัฐมาโดยตลอด
“ยังไม่พอ”
วงเงิน 200,000 ล้านที่จะใช้นั้นน้อยเกินไป ไม่ว่าจะมองในภาพใหญ่ผลต่อเศรษฐกิจ หรือจะมองในแง่มุมการลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับสิทธิความช่วยเหลือ
“ข้อเสนอพรรคกล้า”
รัฐบาลมีเงินหน้าตักอยู่ 600,000 ล้าน และถ้าปรับลดโครงการต่างๆที่ไม่เร่งด่วนออกไป น่าจะมีอย่างน้อย 750,000 ล้าน ที่จะนำมาช่วยลดภาระประชาชน และผู้ประกอบการ
“ยังไม่ครบ”
ยังขาดประชาชนกลุ่มสำคัญที่ถูกมองข้าม นั่นคือกลุ่มที่ไม่รวย แต่ก็เสียภาษีให้รัฐมาตลอด ช่วงโควิดนี่เขาก็เดือดร้อน และการช่วยเหลือกลุ่มนี้จะส่งผลโดยตรงกับการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย กลุ่มนี้คือผู้ประกอบการระดับเล็กไปถึง SME และคนทำงานที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 40,000 บาท
ข้อเสนอพรรคกล้ามี 2 ข้อ ปฏิบัติได้ทันทีครับ
1. เราควรชดเชยรายได้ ให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และ SME ที่รายได้ลดลงในช่วงโควิด โดยใช้ภาษี VAT ที่ผู้ประกอบการจ่ายเป็นตัวเปรียบเทียบยอดขายระหว่างปี 2562 (ก่อนโควิด) และปี 2563 (หลังโควิด) โดยที่รัฐบาลสามารถกำหนดกติกาเงื่อนไขและเพดานการชดเชยได้ – วิธีการนี้เป็นการช่วยเหลือโดยตรงให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีที่วันนี้เดือดร้อน และเป็น ‘พลเมืองดี’ มาตลอด
2. กลุ่มที่ควรได้รับความช่วยเหลือกลุ่มที่สองคือประชาชนที่จ่ายภาษีเงินได้มาโดยตลอด – รัฐบาลควรเว้นภาษีเงินได้ทั้งหมดให้กับผู้เสียภาษีในกลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 500,000 บาทและเสียภาษีในอัตราไม่เกิน 10% ซึ่งทั้งหมดมีจำนวนรวมประมาณ 3 ล้านคน เป็นเม็ดเงินภาษีประมาณ 50,000 ล้านบาท
ทั้งสองมาตรการสามารถดำเนินการได้ทันทีในวงเงินกู้เดิมของรัฐบาล
อย่าให้คนตัวเล็กสู้เพียงลำพัง อย่าทอดทิ้งพวกเขา