“เบี้ยคนชรา” อนุพงษ์ เผยแนวทางหาข้อยุติ-วิษณุ ยัน ไม่มีติดคุก

แนวทางยุติปัญหาเบี้ยยังชีพคนชรา
ภาพโดย truthseeker08 จาก Pixabay

วิษณุ ชี้ ‘คดีเบี้ยคนชรา’ ไม่มีติดคุก ‘อนุพงษ์’ แจงปมแก้ระเบียบมหาดไทย

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีการแก้ปัญหาเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือ เบี้ยยังชีพคนชรา ซึ่งล่าสุด มติชน รายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ได้สอบถามไปทางนายประภาส คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง นายประภาสบอกว่ากำลังคุยกันอยู่ว่าจะทำอย่างไร คิดว่าเขามีความคืบหน้าแล้ว แต่ไม่อยากแถลง

ส่วนนักกฎหมายที่มาให้ความเห็นว่าคนชราไม่ต้องคืนเงิน นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นหลักกฎหมายที่เข้าใจกันอยู่แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 412 ซึ่งเป็นการให้ความเห็นที่ถูก แต่ต้องสุจริต และบางคนตนดูแล้วว่าสุจริตแต่ในบางคนไม่รู้ ต้องมีการสอบเป็นราย ๆ ไป ส่วนที่จะมีการนำผู้สูงอายุติดคุกติดตะรางนั้น ไม่เกี่ยว เพราะการเรียกคืนเงินเป็นคดีทางแพ่ง การจะคืนเงินหรือไม่คืนเงินก็เป็นเรื่องคดีแพ่ง ไม่มีติดคุก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีข้าราชการไม่ยอมชี้แจงเรื่องการรับสิทธิเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะมีการตรวจสอบหรือไม่  นายวิษณุตอบว่า ควรจะต้องตรวจสอบและดูกันให้ดี เหมือนอย่างเช่นกระทรวงพัฒนาความมั่นคง ยังมีเจ้าหน้าที่สมรู้ร่วมคิดทำผิดกฎหมายด้วย หรือกรณีเงินทอนวัด

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมเพื่อพิจารณาหาแนวทางดำเนินการ สมมติว่าถ้าผลออกมาเป็นอย่างที่ทุกคนคาดการณ์ เมื่อได้ข้อยุติกระทรวงมหาดไทยจึงจะไปแก้ระเบียบได้ เนื่องจากการออกระเบียบเป็นไปตามคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติที่กำหนดขึ้น กระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 7,850 แห่งทั่วประเทศ ให้พิจารณาดำเนินการ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนจนกว่าเรื่องจะได้ข้อยุติ อาจเป็นการเจรจาหรือชะลอดำเนินการไปก่อน กับ 11,111 คน

ส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว 4,052 คน ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการและกว่าอีก 1,000 คน ยังไม่ได้ดำเนินการ ขอให้ชะลอไปก่อนเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับบางกลุ่มบางคนที่มีผลกระทบมาก ปรากฏเป็นข่าว เช่น คนแก่อายุมาก ผู้ป่วยติดเตียง และในกรณีบุตรทำงานเพื่อชาติก็น่าจะมีการพิจารณาออกระเบียบที่เหมาะสม ส่วนบางคนสมมติว่ารับบำนาญของตัวเองจำนวนมากอยู่แล้วและไปรับเบี้ยผู้สูงอายุซ้ำ ก็อาจจะมีระเบียบแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณา ถ้าจะให้แก้ไขระเบียบอย่างไรเราก็จะเร่งพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่าในระหว่างการหารือทางมหาไทยได้สั่งให้ อปท.ชะลอเรื่องการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุก่อนหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อปท.ไปสั่งไม่ได้ แต่เราได้ให้นโยบายในภาพกว้าง เช่น ถ้ายังอยู่ในระหว่างการเจราอย่าเพิ่งไปเรียกคืนให้อยู่เฉย ๆ และให้รออย่าเพิ่งดำเนินคดี ส่วนที่ดำเนินคดีไปแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าจะไปหยุดอย่างไร เพื่อลดผลกระทบทั้งหมด


เมื่อถามว่าคนชราที่คืนเงินให้กับรัฐแล้วจะได้รับเงินกลับคืนหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดถึงตรงนั้น เพราะจะหักหรือจะคืน อยู่ที่คณะกรรมการฯ ถ้าคณะกรรมการฯระบุว่า ที่ได้ไปแล้วไปหักมาแล้วหรือต้องคืนก็จบก็ว่าไปตามนั้น ต้องรอคณะกรรมการฯ