ชื่อ “ทักษิณ” ยังตามหลอนอยู่ในหัวของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และชนชั้นนำของสังคมไทย อาจเป็นเพราะความสำเร็จทางการเมืองและธุรกิจในอดีต
กล่าวเฉพาะการเปิดตัว และความสำเร็จ ที่เกี่ยวข้องกับฤกษ์เดือนกุมภาพันธ์ ของทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีความหมายต่อพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย พอสังเขป ดังนี้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
พรรคเพื่อไทย เปิดตัวกิจกรรม “Change Maker” ใช้วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นราชาฤกษ์
“ราชาฤกษ์” ตามความหมายของราชบัณฑิต คือฤกษ์กําเนิด ถือว่าเป็นมงคลสูง ให้เกียรติยศ ชื่อเสียงและผลดีทางการงานแก่ผู้เกิดหรือประกอบการงานในฤกษ์นี้ ทั้งจะทําให้ผู้เกิดหรือประกอบการงานในฤกษ์นี้ เป็นที่นิยมชมชอบรักใคร่โปรดปรานของขุนนางเจ้าพระยา
เดือนกุมภาพันธ์ นับว่ามีความหมายทางการเมืองสำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” และอดีตที่รุ่งโรจน์ของพรรคไทยรักไทย
ก่อนหน้านี้ 20 ปี วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 พรรคไทยรักไทย ลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งแรก และได้รับชัยชนะ เป็นพรรคอันดับ 1 ส่งให้ “ทักษิณ” ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ของประเทศไทย
และเป็นนายกรัฐมนตรี คนแรก ที่อยู่ครบวาระ 4 ปี ของสภาผู้แทนราษฎร
6 กุมภาพันธ์ 2548 ถัดจากนั้นอีก 4 ปี “ทักษิณ” นำพรรคไทยรักไทย ชนะเลือกตั้งแบบถล่มทลาย เป็นครั้งที่ 2 ด้วยจำนวนเสียง 377 ที่นั่ง มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นรัฐบาลพรรคเดียวสำเร็จ
“ทักษิณ” ถูกรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ เคยเดินทางกลับประเทศไทยครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 หลังพรรคพลังประชาชน ชนะการเลือกตั้ง
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ทรัพย์สินของทักษิณประมาณ 46,000 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน
เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ 2 ปี 8 กุมภาพันธ์ 2562 “ทักษิณ” แตกพรรคออกจากเพื่อไทย เพื่อใช้แท็กติกรัฐธรรมนูญ กวาดเสียงจากพรรคพี่-พรรคน้อง เปิดตัว พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ มหิดล เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรค
โดย ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคเวลานั้น ระบุว่า “สมาชิกพรรคคนหนึ่งเสนอ ซึ่งกรรมการบริหาร ทษช. เห็นพ้องต้องกันว่ามีมติว่าเป็นรายชื่อที่มีความเหมาะสมที่สุด”
แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา ก็เกิดแผ่นดินไหวทางการเมือง ตามด้วยคดี “ยุบพรรคไทยรักษาชาติ” ก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 จะเกิดขึ้น
ผลการเลือกตั้ง ส่งให้เพื่อไทย กลายเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว
- มติเอกฉันท์ ศาล รธน. สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตัดสิทธิกก.บริหาร 10 ปี
- เปิดรายชื่อกก.บห. ‘พรรคไทยรักษาชาติ’ ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี
- เปิดคำวินิจฉัยฉบับเต็ม ยุบ ทษช. ศาล ชี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเซาะกร่อน บ่อนทำลาย ระบอบประชาธิปไตย
- ปิดประตู พรรคทักษิณ เป็นรัฐบาล เพื่อไทยและพวก เหมือนจะชนะ…แต่แพ้
ล่าสุด 7 กุมภาพันธ์ 2564 นักการเมืองรุ่นที่เคยร่วมรบกับ “ทักษิณ” หลายหลุ่ม กลับไปรวมตัวกันอีกครั้ง ที่พรรคเพื่อไทย หลายคนซ่อนเร้นไปทำธุรกิจ เล่นหุ้น บางคนพ้นจากการต้องโทษติดคุก เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ กลุ่มที่หลบพิษการเมืองจากในพรรค ออกไปตั้งกลุ่มแคร์ และเครือข่ายลูก-หลานของ “ทักษิณ”
พร้อมเปิดตัวกิจกรรมการเมือง “Change Maker” เปิดหน้าคนการเมืองครบ ทั้ง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ,นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี , นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล
“ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช” อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ “พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” ผู้ดำเนินการจัดหาหัวพรรคไทยรักษาชาติ และชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตนายทะเบียนสมาชิกพรรค ลูกสาว “เยาวเรศ ชินวัตร”
โดยเปิดตัว ผู้อำนวยการโครงการ คือ “คณาพจน์ โจมฤทธิ์” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับ 8 ของพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อนสนิทของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวทักษิณ
นับเป็นงาน Change ที่รวมตัวคนเคย Change โดยไร้เงาผู้กุมบังเหียนพรรคเพื่อไทย คนปัจจุบัน ที่ชื่อ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์”