ประยุทธ์ อวยพรคนไทยเชื้อสายจีน “ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ”

ประยุทธ์ กล่าวอวยพรคนไทยเชื้อสายจีน “ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ” ระบุเทศกาลตรุษจีน ถือเป็นโอกาศสำคัญการระลึกถึงสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด ไทยกับจีน

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวอวยพรประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

นายกรัฐมนตรีเริ่มต้นการอวยพรด้วยการกล่าวสวัสดีเป็นภาษาจีน “หนีห่าว” ถึงประชาชนชาวจีนที่รักทุกท่าน เทศกาลตรุษจีนถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ซึ่งในปีนี้รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวันหยุดข้าราชการกรณีพิเศษเป็นครั้งแรก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนยังถือยังเป็นโอกาศสำคัญในการระลึกถึงสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด ระหว่างไทยกับจีน แม้สถาการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้คนไทยและคนจีน ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้อย่างปกติเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ยังเชื่อมั่นว่า ด้วยมิตรภาพและความผูกพันธ์ของประชาชน

รวมถึงความร่วมมือกันอย่างแข็งขัน ระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ เราจะสามารถก้าวข้ามนี้และความท้าทายต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี และพร้อมขับเคลื่อนความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับจีน ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคโดยรวมต่อไป

“เนื่องในสุขะวาระปีฉลูนี้ ในนามของรัฐบาล ขออวยพรให้ชาวไทยเชื้อสายจีนทุกท่าน ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ” นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สำหรับ วันตรุษจีนในประเทศ  ถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือวันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยวตามรายงานของเว็บไซต์วิกพิเดียระบุ

1.วันจ่าย คือวันก่อนวันสิ้นปี เป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปซื้ออาหารผลไม้และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ก่อนที่ร้านค้าทั้งหลายจะปิดร้านหยุดพักผ่อนยาว ไม่จำเป็นจะต้องมีการจุดธูปอัญเชิญเจ้า ให้ลงมาจากสวรรค์เพื่อรับการสักการบูชาของเจ้าบ้าน หลังจากที่ได้ไหว้อัญเชิญขึ้นสวรรค์เมื่อ 4 วันที่แล้วเพราะว่าเจ้าที่ไม่ได้ไปไหนเมื่อสี่วันที่แล้ว ตัวเราส่งแต่ เจ้าซิ้ง หรือเจ้าเตา

2. วันไหว้ ตอนเช้ามืด จะไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ เครื่องไหว้คือ เนื้อสัตว์สามอย่าง ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ หรือเพิ่มตับ ปลา เป็นเนื้อสัตว์ห้าอย่าง เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง

ตอนสาย จะไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูตามคติจีน การไหว้ครั้งนี้จะไหว้ไม่เกินเที่ยง เครื่องไหว้จะประกอบด้วย อาหารคาวหวาน (ส่วนมากจะทำตามที่ผู้ที่ล่วงลับเคยชอบ) รวมทั้งการเผากระดาษเงินกระดาษทอง เสื้อผ้ากระดาษเพื่ออุทิศแก่ผู้ล่วงลับ หลังจากนั้น ญาติพี่น้องจะมารวมกันรับประทานอาหารที่ได้เซ่นไหว้ไปเป็นสิริมงคล และถือเป็นเวลาที่ครอบครัวหรือวงศ์ตระกูลจะรวมตัวกันได้มากที่สุด จะแลกเปลี่ยนอั่งเปาหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว

ตอนบ่าย จะไหว้ผีพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้จะเป็นพวกขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล กระดาษเงินกระดาษทอง พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้ายและเพื่อเป็นสิริมงคล

3.วันเที่ยว ถือเป็นคือวันขึ้นปีใหม่ วันนี้ชาวจีนจะถือธรรมเนียมโบราณที่ยังปฏิบัติสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน เป็นการไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก ด้วยการนำส้มสีทองไปมอบให้


เหตุที่ให้ส้มก็เพราะส้มออกเสียงภาษาแต้จิ๋วว่า “กิก” ไปพ้องกับคำว่าความสุขหรือโชคลาภ แปลว่า โชคลาภ หรือ ภาษาฮกเกี้ยน และ ภาษากวางตุ้ง ส้มเรียกว่า “ก้าม”  ซึ่งไปพ้องกับคำว่าทอง เพราะฉะนั้นการให้ส้มจึงเหมือนนำความสุขหรือโชคลาภไปให้