โผ ครม.ประยุทธ์ 2/4 อยู่ในช่วงพักเบรก นิ่งสงบ-สยบความเคลื่อนไหว ภายหลังการประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) “มอบอำนาจ” ให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค “เบ็ดเสร็จ”
ตอกฝาโลงด้วย “อำนาจเต็ม” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการ “ทุบโต๊ะ” แต่งตั้งบุคคลผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทดแทน 3 ตำแหน่งที่ว่างลง “แต่เพียงผู้เดียว”
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องเฟ้น 1 รายชื่อมา “รักษาโควตาเดิม” ส่วนภูมิใจไทย แม้ไม่มีส่วนได้-ส่วนเสีย แต่เมื่อ up-level จากพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 3 เป็นพรรคอันดับ 2 มี ส.ส.เพิ่มขึ้น จาก 51 เป็น 61 ที่นั่ง
เมื่ออำนาจปรับ ครม.เป็นของ 2 ป. ทำให้ความเคลื่อนไหวระดับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเลือกที่จะ “สงบนิ่ง” ไม่ให้พรรคเกิดความเสียหายจากการวิ่งเต้น-พรรคแตก เพราะการแย่งตำแหน่ง
ประกอบกับ “ศึกนอก” การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช พรรครัฐบาล พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์ โคจรมาซดกันเอง ทำให้การปรับ ครม.ต้องหลีกทางให้ “คู่หยุดโลก”
เมื่อข้อสรุปจากบ้านป่ารอยต่อ-ตึกไทยคู่ฟ้ายังไม่จบ-โผ ครม.2/4 ยังไม่นิ่ง จนกว่าจะมี “สัญญาณอย่างเป็นทางการ” เพื่อให้ไป “กรอกประวัติ-ตรวจสอบคุณสมบัติ” ความเป็นรัฐมนตรี และยังไม่มี “เสียงกระซิบ” จากหัวหน้าพรรค ให้แต่งตัวเป็นเสนาบดี
ขณะนี้ชื่อ-ชั้นแคนดิเดตรัฐมนตรีที่ถูก “โยนหินถามทาง” ให้มาคั่ว-จ่อ-เสียบ ตำแหน่ง 2 รัฐมนตรีว่าการ ได้แก่ 1.รมว.ศึกษาธิการ และ 2.รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กับอีก 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ คือ รมช.คมนาคม ถูกทำให้ “แคบลง” เพราะล้วนแต่เป็นชื่อ “คนใน” ทำงานให้หัวหน้าพรรค ไม่ใช่ “คนนอก” โควตานายกรัฐมนตรี และแคบลงไปอีกให้เห็นหน้า-เห็นตา “คนในโผ” ครม.ประยุทธ์ 2/4 มาจากบุคคล 3 ประเภท
ประเภทที่ 1 มีพรรค-พวก และจำนวนมือที่จับต้องได้ อาทิ อนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ-แกนนำกลุ่มสามมิตร ที่มีชื่อ “โยกย้าย” จากรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปเป็น “เจ้ากระทรวงดีอีเอส” และ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” แกนนำภาคเหนือ-ใต้ ที่มีชื่อ “เลื่อนชั้น” จาก รมช.เกษตรฯ ไปเป็น “ว่าการดีอีเอส”
ประเภทที่ 2 มีทุนรอน เป็นผู้สนับสนุนพรรค-มีคอนเน็กชั่นธุรกิจใหญ่หาเงินเข้าพรรคได้ อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ “ผู้อำนวยการพรรค” ที่มีชื่ออัพไซซ์เก้าอี้ จาก รมช.คลัง ไปเป็น รมว.ศึกษาธิการ หรือ รมว.ดีอีเอส
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลำดับที่ 10 ที่มี “คอนเน็กชั่น” กับธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน ซึ่ง “โอ๋-ชัยวุฒิ” เคยใช้ประสบการณ์ความเป็น “วิศวกร” เข้าไปช่วยแก้ปัญหาขึ้นคลื่นโรงไฟฟ้าให้กับ Gulf Energy จนประสบความสำเร็จ และประเภทที่ 3 มีสายสัมพันธ์แนบแน่น-ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ ระดับหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรค
ทว่า มีอีก 1 ประเภทที่จะกลายเป็น “ตาอยู่” คือ “คนที่นิ่งที่สุด” คนที่ไม่เคลื่อนไหว-วิ่งเต้นขอตำแหน่ง และทำงาน “ปิดทองหลังพระ” ให้กับพรรคสนองนโยบาย “พรรคเป็นหนึ่งเดียว” ของหัวหน้าพรรค-บิ๊กป้อม
เพราะสเป็กรัฐมนตรีในใจ-ในหัวของ พล.อ.ประวิตร คือ ต้องเป็นเด็กดี ห้ามวิ่งเต้น-ห้ามต่อรอง-ห้ามขัดแย้ง เพื่อความเป็นเอกภาพในพรรค “คนแบบนี้” ถึงจะเข้าป้าย “รัฐมนตรีป้ายแดง”
