ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ ยันอำนาจแก้รัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภา ขอ ส.ว.โหวตผ่านวาระ 3 ให้มี ส.ส.ร.
วันที่ 5 มีนาคม 2564 ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย อาทิ นายโคทม อารียา ที่ปรึกษา สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย นายนิกร จำนง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแลลงข่าว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ในฐานะเลขาธิการภาคี เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่า การจัดประชุมครั้งนี้ ไม่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นเหมือนประเทศพม่า ที่การเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย และการรัฐประหารการล้มล้างอำนาจของประชาชนนำไปสู่ความรุนแรงวุ่นวาย และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้ ส.ว. และพรรคการเมือง่ฝ่ายค้าน ภาคประชาชนทั้งหมด ได้นึกถึงอนาคตของประเทศ และนึกถึงอนาคตของลูกหลานไทยทุกคน ทั้งนี้ โดยขอเรียกร้อง 3 ข้อ
1.รัฐสภาได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการมี ส.ส.ร. ศาลได้ขอความเห็นจากนักกฎหมาย 4 คนและได้รับราบความเห็นจากฝ่ายค้าน ซึ่งความเห็นของนักกฎหมายนั้นควรเปิดเผยต่อสาธารณชนและศาลได้กำหนดว่าจะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 11 มีนาคม ขณะเดียวกัน คาดว่ารัฐสภาจะพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระสาม วันที่ 17-18 มีนาคม เรามีความเห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติที่เป็นของรัฐสภา และในอดีตได้มีประเพณีการจัดตั้ง ส.ส.ร.ในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว
2. เราเรียกร้องให้ สมาชิกรัฐสภา โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาผ่านญัตติในวาระสามตามอำนาจหน้าที่ต่อไป เราเชื่อมั่นในเสียงของประชาชนในการออกเสียงประชามติรับหรือไม่รับญัตติที่ผ่านวาระสาม และเชื่อมั่นในการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ซึ่งจะมาเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ โดยการมีส่วนร่วมและการพูดคุยกันฉันพี่น้อง ปรองดองสมานฉันท์ระหว่างคนในชาติ ความขัดแย้ง การเผชิญหน้าในประเทศไทยจะได้หมดไป เราจะได้ใช้เวลา ทรัพยากร งบประมาณ ไปในทางที่สร้างสรรค์ พัฒนาประเทศต่อไปในด้านอื่น
3.ขอให้ทุกภาคส่วนมีความมั่งมั่นที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ ที่เป็นจุดรวมความคิดของประชาชน โดยเชื่อว่ารัฐธรรมนูญเป็นแกนหลักของนิติรัฐ นิติธรรม ที่จะช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองและพัฒนาประเทศได้อย่างเที่ยงธรรม
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การณรงค์ครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญของประเทศต้องทำให้สำเร็จ แม้จะยากลำบาก มีความคิดทางการเมืองที่หลากหลายทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล แต่มีจุดยืนเดียวกันคือเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย และต้องการรัฐธรรมนูญโดยประชาชนเพื่อประชาชน ทั้งนี้ เราเรียกร้องต่อรัฐสภา และเรียกร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญถ้าขั้นตอนนี้ไม่เป็นไปตามคาดหวังจะประชุมปรึกษาหารือรณรงค์เคลื่อนไหวในครั้งต่อไป เราจะกระทำทุกทางเพื่อให้บ้านเมืองมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและสถาปนาระบบการปกครองที่ประชาชนเป็นใหญ่ จะใช้อำนาจอะไรก็ตามจะไม่ยอมแพ้แม้แต่วินาทีเดียว