“ภูมิใจไทย” ขอโทษประชาชน รับตามเกมคนจ้องคว่ำแก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน

ภูมิใจไทย ออกแถลงการณ์ ขอโทษประชาชน เสียใจ ยอมรับ ตามเกมคนการเมืองที่จ้องจำคว่ำแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน

วันที่ 18 มีนาคม 2564 พรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ กรณีรัฐสภาลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นผู้ลงนามในตอนท้าย

มีเนื้อหาว่า พรรคภูมิใจไทย ขอแสดงความเสียใจต่อกรณีที่รัฐสภาได้ลงมติไม่เห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เป็นผลให้ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภามาแล้วถึง 2 วาระ ต้องตกไป และไม่สามารถนำกลับมาพิจารณาได้อีก

เป็นการทำลายความหวัง ความตั้งใจของประชาชน และสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ได้ร่วมกันยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีที่มาจากประชาชนมายกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนโดยแท้จริง

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พรรคภูมิใจไทย พยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมตกไป จึงสนับสนุนให้มีการชะลอการพิจารณาวาระที่ 3 ไว้ก่อน แล้วเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญกรุณาบอกแนวปฏิบัติ ตามคำวินิจฉัยกลางเพื่อที่รัฐสภาจะได้ดำเนินการถูกต้อง และไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอ และพรรคภูมิใจไทยเห็นชอบ

เพราะเห็นว่าเมื่อยังไม่มีความชัดเจน และสมาชิกรัฐสภายังมีความเห็นแตกต่างกัน ซึ่งการประชุมรัฐสภาเป็นเวลาเกือบ 10 ชั่วโมง ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า รัฐสภายังไม่รู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไร จึงจะไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลผูกพันต่อรัฐสภา

พรรคภูมิใจไทย จึงเห็นว่า หากสมาชิกรัฐสภายอมเสียเวลาสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้แนวปฏิบัติที่ไม่ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านมาแล้ว 2 วาระ ก็จะยังอยู่ และเมื่อมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนก็จะเดินหน้าต่อไปได้ แต่แนวทางนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา มีความพยายามที่จะผลักดันให้มีการลงมติ วาระ 3 ให้ได้

พรรคภูมิใจไทยได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์แล้วว่า การลงมติจะเป็นการทำให้ร่างรัฐธรรมนูญตกไปทันที และไม่มีทางนำกลับมาพิจารณาได้อีก

1.ส.ส.จำนวนมากไม่มั่นใจว่าการลงมติเป็นการกระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าต้องไปทำประชามติก่อน และประธานรัฐสภาได้ชี้แจงก่อนการประชุมว่าฝ่ายกฎหมายของรัฐสภา เสนอว่าไม่ควรลงมติ อาจขัดรัฐธรรมนูญได้

2.การลงมติต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาไม่น้อยกว่า 84 เสียง จึงจะผ่านความเห็นชอบ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้สอบถามท่าทีสมาชิกวุฒิสภาแล้ว ทราบว่าส่วนใหญ่ ไม่สนับสนุน ซึ่งในการลงมติ ก็มีเพียง 2 เสียง ที่สนับสนุน

จากข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้นก่อนเปิดประชุมรัฐสภา พอจะประเมินได้ว่าหากมีการลงมติ วาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไข เพิ่มเติม ที่ผ่านมา 2 วาระต้องตกแน่ พรรคภูมิใจไทย จึงเลือกแนวทางที่จะรักษาร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อนด้วยการชะลอเวลา แล้วไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ

เพราะหาแนวทางที่จะเดินหน้าต่อไปไม่ให้ร่างรัฐธรรมนูญตก แต่เราทำไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็มีการลงมติ วาระ 3 ซึ่งผลก็เป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้คือ ร่างรัฐธรรมนูญที่ทำกันไว้ตก และ ำกลับมาพิจารณาไม่ได้แล้ว

การไม่ลงมติคือการแสดงออกให้เห็นว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ขอร่วมกระทำการที่เรียกได้ว่าไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา

พรรคภูมิใจไทยยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกประการ เพราะเราพลาดจริง ๆ ที่ตามเกมการเมืองของผู้ที่จ้องจะล้มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เนื่องจากเราคิดไม่ถึงว่าจะมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันตลอดทั้งวัน เป็นการเล่นเกมที่จะเอาชนะกัน โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนที่จับตาดูการประชุมรัฐสภา และเฝ้ารอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องขอโทษที่ไม่สามารถรักษาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญไว้ได้

พรรคภูมิใจไทยยังดำรงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการร่างรัฐธรรมนูญต่อไป และจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ตามแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยไว้

โดยมีหลักการคือ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ และเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และ เป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี สนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชน มีสิทธิทำกิน สิทธิประกอบอาชีพ อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างรายได้ เพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชน ที่สำคัญคือต้องมีหลักประกันรายได้ให้แก่ประชาชนทุกคน