‘วิษณุ’ เผย สธ. ชงใช้ยาแรงสกัดโควิด แย้มอาจมี “เคอร์ฟิว” บางจังหวัด

เคอร์ฟิว
FILE PHOTO : Photo by NICOLAS ASFOURI / AFP

‘วิษณุ’ เผย สธ. ชงใช้ยาแรง เด็ดขาด สกัดโควิดระบาดพุ่งพันคน/วัน รับอาจมีเคอร์ฟิวบางจังหวัด แต่ขอให้รอการประชุมของศบค.ชุดใหญ่ 16 เมษาฯนี้ก่อน ยันส่วนตัวยังไม่เห็นความจำเป็นต้องใช้ หวั่นกระทบแผนเปิดประเทศ 1 ก.ค.64

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ถึงการบังคับใช้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 สามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ว่า  โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันคนต่อวันว่า ที่ผ่านมาเคยใช้มาแล้ว

เพราะไม่ใช่แค่การประกาศใช้กฎหมายหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว แต่มีการออกข้อกำหนด สั่งห้าม เพิ่มเติมด้วย ต้องรอผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 16 เมษายนนี้

เมื่อถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องประกาศเคอร์ฟิว นายวิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่บางจังหวัดจะประกาศเคอร์ฟิว แต่ส่วนตัวยังไม่กล้าที่จะเปิดเผย คงต้องรอที่ประชุม ศบค.ก่อนว่าจะมีการเสนอในประเด็นนี้หรือไม่ แต่มองว่ายังไม่เห็นความจำเป็น เพราะการใช้มาตรการยกระดับพื้นที่สีต่างๆ ยังเป็นแนวทางที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ยอมรับว่าแพทย์และกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)รายงานมายังรัฐบาลให้ใช้มาตรการที่เข้มข้น รุนแรงและเด็ดขาด แต่ฝ่ายเศรษฐกิจขอประเมินผลกระทบ โดยเฉพาะช่วงหลังสงกรานต์ 1-2 วันนี้ว่า จะมีความสัมพันธ์กับมาตรการที่จะบังคับใช้ใหม่อย่างไร ซึ่งอาจจะออกมาในแนวทางพบกันครึ่งทาง คือ การใช้วิธีเพิ่มสีให้เข้มขึ้น โดยบางพื้นที่อาจจะต้องยกระดับจากพื้นที่สีส้ม เป็นพื้นที่สีแดง เป็นต้น

นายวิษณุ กล่าวว่า ยอมรับและกังวลต่อการระบาดโควิด-19 ในครั้งนี้ เพราะจุดเริ่มต้นที่เกิดขึ้นที่ทองหล่อมีการเดินทางที่ขยายและกว้างไกลออกไป ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่เชื้อติดในพื้นที่กับผู้ใช้แรงงาน ซึ่งไม่มีการเดินทางที่ขยายออกไป แต่เวลานี้เป็นเรื่องของคนมีเงิน ทำให้มีไทม์ไลน์ในการเดินทางในหลายพื้นที่

ส่วนจะกระทบต่อแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้หรือไม่นั้น ขอให้รอดูการประชุมของศบค.ในวันที่ 16 เมษายนนี้ก่อน

สำหรับการครบการกักตัว 14 วันของตนเองจะครบในที่ 19 เมษายนนี้ และจะเริ่มทำงานในวันที่ 20 เมษายน เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยจากการตรวจหาเชื้อโควิด 2 ครั้งไม่พบว่ามีการติดเชื้อ และทราบว่าคนที่เข้าร่วมประชุมกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก็ไม่มีใครติดเชื้อแต่อย่างใด