“เดวิด เสร็คฟาส” นักวิชาการอเมริกัน ถูกไทยระงับวีซ่า

ระงับวีซ่านักวิชาการเมกัน

ระงับวีซ่า “เดวิด เสร็คฟาส” นักวิชาการชาวอเมริกัน ผู้พำนักอยู่ไทยกว่า 35 ปี

วันที่ 16 เมษายน 2564 มติชน รายงานว่า นายเดวิด เสร็คฟาส (David Streckfuss) นักวิชาการชาวอเมริกัน ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 35 ปี โดยปัจจุบันทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ถูกระงับวีซ่าแล้ว โดยนายเดวิดเผยเรื่องนี้กับ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษว่า สาเหตุคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่เดินทางไปที่มหาวิทยาลัย ต่อมาวีซ่าก็ถูกยกเลิก

สำหรับ นายเดวิด เสร็คฟาส เป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์การเมือง ช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้แสดงความเห็นทางการเมืองผ่านสื่อมวลชนต่างประเทศและไทยบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน มีงานวิชาการโดยเฉพาะด้านการเมืองประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีบทความและหนังสือตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ระดับโลก โดยหนังสือที่ได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะหนังสือ Truth on Trial in Thailand ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทย

ด้าน นางสาวหทัยรัตน์ พหลทัพ บรรณาธิการภาคภาษาไทย เว็บไซต์เดอะอีสานเรคคอร์ด โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Hathairat Phaholtap ระบุว่า นายเดวิดได้รับแจ้งยกเลิกการจ้างงานโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลให้วีซ่าสิ้นสุดลงในวันที่ 18 มีนาคม โดยทางมหาวิทยาลัยอ้างว่า มีตำรวจจาก สภ.ขอนแก่น มากดดันอธิการบดีและคณบดี ตำรวจอ้างว่านายเดวิดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง

ทางอีสานเรคคอร์ด ที่บริหารงานโดย บมจ.บัฟฟาโล่ เบิร์ด โปรดักชั่นส์ ได้ว่าจ้างนายเดวิด ในฐานะผู้ประสานระหว่างประเทศ และยื่นขอ Work Permit ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้ติดอยู่ที่ขั้นตอนของตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 ที่ส่งทีมสอบสวนมาสอบปากคำพนักงานบริษัทแล้วถึง 3 รอบ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่า จะได้รับคำตอบ

ล่าสุด ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4. ยืนยันว่า การไม่ต่อวีซ่าให้นายเดวิดนั้น เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง เนื่องจากทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นไม่ต่อใบอนุญาตทำงานให้นายเดวิด ซึ่งทางตำรวจก็ให้สิทธินายเดวิดไปจัดการต่อ จากนั้นนายเดวิดได้ไปขอให้บริษัทถ่ายสารคดีเป็นผู้ออกใบอนุมัติทำงานให้

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรตามที่เป็นข่าว เราทำตามหน้าที่ นายเดวิดยังคงอยู่ในประเทศไทยได้ เพราะเรื่องนี้ยังคงอุทธรณ์ อยู่ระหว่างการพิจารณา” ผบก.ตม.4. กล่าว