นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ซึ่งอยู่ในเรือนจำ เสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด เพราะใกล้ชิดกับ นายชูเกียรติ แสงวงศ์หรือจัสติน ซึ่งมีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิดแล้ว
วันที่ 24 เมษายน 2564 เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ ข้อความว่านางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ว่านายชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ จัสติน ติดเชื้อโควิด-19 ถูกแยกตัวออกมารักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
เพจดังกล่าวระบุว่า หลายครั้งมาตรการกันโควิดถูกนำมาอ้างไม่ให้ญาติไม่ให้ญาติเขาเยี่ยม ไม่ให้ทนายเข้าไปปรึกษาคดี จากเหตุการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงมาตรการที่ตอแหล นำเอาสถานการณ์ไวรัสระบาดมาเป็นข้ออ้าง
การขังโดยไม่ให้ประกันระหว่างพิจารณาคดีเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่เหล่าผู้ถูกกล่าวหาถูกริดรอนอิสรภาพ ซ้ำร้ายพวกเขายังเจอคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ เสี่ยงโรค เสี่ยงภัย เราขอเรียกร้องให้ตุลาการมีกระดูกสันหลังบ้าง มีความเป็นคนบ้าง
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพติดเชื้อโควิด 19 ผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานติดกันไปแล้ว 7 – 8 คน ตอนนี้ จัสติน 1 ในผู้ต้องขังกลุ่มราษฎรเป็นผู้ติดเชื้อ เขานอนติดกับเพนกวินและน้องๆ แกนนำอีกหลายคน
นัฐวุฒิ กล่าวว่า ผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องรีบแก้ไขสถานการณ์นี้ ดูแลผู้ต้องขังทุกคน และน้องๆแกนนำซึ่งทุกคดียังไม่ถึงที่สุดต้องได้ประกันตัวทันที
“ผมไม่ได้เรียกร้องเพียงอิสรภาพ แต่ผมขอชีวิตเด็กๆด้วย สภาพร่างกายบางคนแย่อยู่แล้ว รอช้าไม่ได้”
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายชูเกียรติ แสงวงค์ หรือจัสติน ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และอยู่ในระหว่างแยกกักโรค เป็นระยะเวลา 14 วันหลังกลับจากศาล ได้มีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จริง ตามที่เป็นข่าวนั้น
เมื่อวันที่ 23 เมษยน 2564 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากบริเวณหลังโพรงจมูก ของนายชูเกียรติ ไปตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นบวก พบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้ดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ภายในวันเดียวกัน
ทำให้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต้องแยกกักตัวเจ้าหน้าที่ 9 ราย และผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดที่มีความเสี่ยงสูงในห้องแยกกักโรคและสถานพยาบาลเรือนจำฯ จำนวน 26 ราย พร้อมดำเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากบริเวณหลังโพรงจมูก เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว