
สิ่งที่นักเลือกตั้งหวาดกลัวถึงระยะเวลาปลดล็อกการเมืองโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เพราะการประกาศปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ย่อมมีความเกี่ยวเนื่องกับการประกาศวันเลือกตั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เนื่องจากตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ในบทเฉพาะกาลบังคับให้พรรคการเมือง ที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2550 ต้องทำกิจกรรมใหม่ตามที่กฎหมายพรรคการเมือง 2560 เขียนไว้
ในขณะเดียวกัน หากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง มีผลบังคับใช้ทั้งหมด 4 ฉบับ เท่ากับการเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นภายใน 150 วัน ตามมาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญ 2560
จากนั้นรัฐบาลก็จะตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกมา หากพรรคการเมืองไหนที่ยังทำกิจกรรมที่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 บังคับไว้ยังไม่เสร็จ พรรคการเมืองนั้นก็จะไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 141 ของกฎหมายพรรคการเมือง 2560
ตามไทม์ไลน์ที่คลอดมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดปฏิทินสำหรับทำกิจกรรมของพรรคเก่าที่มีอยู่ทั้งสิ้น 69 พรรค 7 ข้อ
1.แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคที่แตกต่างจากที่ปรากฏในทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง ต้องทำภายใน 90 วัน เริ่มนับวันที่ 8 ตุลาคม 2560 ครบกำหนด 5 มกราคม 2561
2.กรณียังมีสมาชิกไม่ถึง 500 คน ต้องให้มีสมาชิกให้ครบ 500 คน ภายใน 180 วัน ครบกำหนดวันที่ 5 เมษายน 2561
3.จัดให้มีทุนประเดิมพรรคจำนวน 1 ล้านบาท ภายใน 180 วัน ครบกำหนด 5 เมษายน 2561
4.จัดให้สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง ภายใน 180 วัน ครบกำหนด 5 เมษายน 2561
5.จัดให้สมาชิกชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 5 พันคน ต้องทำภายใน 1 ปี ครบกำหนด 8 ตุลาคม 2561 และจัดให้สมาชิกไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคน ชำระค่าบำรุงพรรค ภายใน 4 ปี ครบกำหนด 7 ตุลาคม 2564
6.จัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ข้อบังคับและจัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายพรรคการเมือง ภายใน 180 วัน ครบกำหนด 5 เมษายน 2561 และ 7.จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ภายใน 180 วัน ครบกำหนด 5 เมษายน 2561
เท่ากับว่า ยิ่งปลดล็อกช้า เวลายิ่งกระชั้น ถ้ารัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งเร็ว และพรรคการเมืองยังทำกิจกรรม 7 ข้อไม่เสร็จ ก็เท่ากับแพ้ฟาวล์ทันที