“สมชัย” ค้านแนวคิดห้ามทำโพลเลือกตั้ง ส.ส. ชี้โลกประชาธิปไตย ไม่มีใครเขาห้ามกัน

“สมชัย” ชำแหละร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. ค้านแนวคิดห้ามทำโพลเลือกตั้ง ส.ส. ชี้เป็นงานวิชาการที่สะท้อนสังคม

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าววิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าการที่ กรธ.ห้ามทำโพลที่มีลักษณะชี้นำ หรือมีผลต่อการตัดสินใจต่อการลงคะแนน หากมีการดำเนินการมีโทษทั้งจำทั้งปรับนั้น ในประเทศตะวันตกที่เป็นต้นแบบประชาธิปไตย การทำโพลไม่เป็นเรื่องต้องห้าม สื่อมวลชนหรือสถาบันวิชาการต่างๆ มีการทำโพลกันหลายสิบครั้งก่อนการเลือกตั้ง ไม่มีการห้ามการเผยแพร่ผล เพราะเป็นวิจารณญาณของผู้อ่านผลโพลเองว่า สมควรเชื่อหรือไม่ โพลมีทั้งผิดและถูก และครั้งใหญ่ๆ หลายครั้ง โพลที่ออกมากับผลก็แตกต่างกัน เช่น กรณีทรัมป์ กับฮิลลารี โพลทุกโพลแทบจะประเคนชัยชนะให้กับฮิลลารีด้วยซ้ำ แต่ผลเป็นเชิงตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม การทำโพลมีข้อดีในด้านที่ทำให้ผู้สมัครได้ทราบถึงคะแนนเสียงและจุดอ่อนของตน และนำไปสู่การปรับปรุงนโยบายและกลยุทธ์ในการหาเสียง ในขณะเดียวกันโพลอาจมีส่วนช่วยป้องกันการทุจริตเลือกตั้งได้ ยกตัวอย่างเช่น หากโพลออกมาตรงกันว่า ในพื้นที่นี้ใครชนะอย่างถล่มทลาย แต่หากผลกลับเป็นตรงข้าม อาจเป็นข้อสังเกตได้ว่า อาจจะมีการกระทำที่ไม่ถูกต้องบางอย่างให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนไป

“ไม่มีโพลใดที่ไม่มีอิทธิพลหรือไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนน ในทางวิชาการเราเรียกสิ่งนี้ว่า ผลของสมัยนิยม หรือ Bandwagon effect คล้ายว่า หากกระแสนิยมส่วนใหญ่ในสังคมไปในทิศทางใด ก็มีแนวโน้มที่จะจูงใจให้คนเลือกตาม ดังนั้น หากกำหนดถึงขั้นว่า ห้ามทำโพลที่มีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนน นั่นแปลว่า คงไม่มีสำนักโพลใดกล้าทำโพลอีกแล้ว เพราะเสี่ยงที่จะถูกกฎหมายเล่นงานว่ามีผลต่อการตัดสินใจ คำถามของโพลที่อาจจะเกิดขึ้น คงตอบได้แค่ไป ไม่ไป เลือกตั้ง หรือได้คำตอบแล้วต้องมีใส่รหัสปริศนาให้คนตีความ เช่น พรรคที่มีสัญลักษณ์เป็นวัตถุสิ่งของ มีคะแนนนำพรรคที่มีสัญลักษณ์เป็นสิ่งมีชีวิต” นายสมชัยกล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์