ประยุทธ์เปิดอก ไม่ได้รวบอำนาจ ดึงเงิน-วัคซีน จากมือ อนุทิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
FILE PHOTO : ROYAL THAI GOVERNMENT /

พล.อ.ประยุทธ์แจง ลูกพรรคภูมิใจไทย อภิปราย ทำงานไม่ให้เกียรติ “อนุทิน” ลั่น ไม่ได้หวงอำนาจ-แต่ยังไม่ถึงเวลาสร้างความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 ที่รัฐสภา มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวาระแรก ขั้นรับหลักการ เป็นวันที่ 3 (วันสุดท้าย) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงตอนหนึ่งว่า “กรณี ส.ส.หลายท่านอภิปรายว่า ผมไม่มีความสามารถ ไม่มีความรู้ด้านสาธารณสุข ด้านการแพทย์ เพราะฉะนั้นการเอาอำนาจต่าง ๆ มาถือไว้ ไม่เหมาะสม”

“รวมถึงนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีไม่ให้เกียรติในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ว่า ตนให้เกียรติรองนายกฯ ทุกคน ทุกท่านสามารถคุยกับผมได้ทุกโอกาส หลายครั้ง ทุกวัน ทุกเวลา วันละหลายเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19”

“โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรีด้านสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) เรียกว่า คุยกันบ่อยครั้งมาก เพื่อพิจารณาร่วมกัน ท่าน (อนุทิน) ก็เหมือนเป็นที่ปรึกษาของผมกลาย ๆ ให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว ที่ผ่านมาไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่ผ่านมา”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ในส่วนของข้อมูลที่ได้มามาจากหลายส่วน เช่น กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขเป็นหลัก และนำมาประมวลเพื่อให้นโยบายและแนวทาง ซึ่งได้รับฟังข้อเสนอแนะมารองนายกฯ (อนุทิน) ไปยัง ศบค.โดยมีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้บริหาร

“ที่ว่าผมไปรวบอำนาจมา เนื่องจากกฎหมาย พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรงและอันตรายให้กรอบอำนาจเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถไปสั่งการหน่วยงานอื่นได้ ผมจำเป็นต้องเอากฎหมาย 31 ฉบับ มาดูว่า ถ้าจะให้ทหาร ตำรวจ มหาดไทยทำจะทำอย่างไร เพราะไม่มีอำนาจ นั่นแหละคืออำนาจในการบูรณาการของผม แค่นั้น ไม่ใช่ผมนึกว่าจะสั่งโน่น สั่งนี่ แต่ต้องเสนอและเป็นอำนาจของ ศบค.”

“การที่บอกว่า ผมไม่ให้เกียรติ ผมว่า คิดกันคนละทางมากกว่า ถ้าสมมุติว่า ผมตั้งเลขาฯ สมช. เป็น ผอ.ศบค. และให้รองนายกฯ (อนุทิน) ไปนั่งข้าง ๆ ค่อยมาว่าผม”

“คำว่าที่ปรึกษา ไม่ใช่ที่ปรึกษาต้องไปนั่งตรงนั้น (นั่งใน ศบค.) แต่หมายถึงที่ปรึกษากับผม เพื่อให้ผมไปสั่ง ศบค.ไปพิจารณา โดยฟังบุคลากรในที่ประชุม ศบค. ซึ่งมีหลายสิบคน ประชุมกันเช้าบ่าย ๆ แทบไม่มีวันหยุด และนำไปสู่การปฏิบัติ โดยฟังเหตุผลด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งมาจากกระทรวงสาธารณสุขแน่นอน”

พล.อ.ประยุทธ์ยังชี้แจงเหตุผลของการไม่บรรจุงบประมาณด้านวัคซีนไว้ในกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ จึงต้องดึงเข้ามาเพื่อบริหารให้ทันต่อความต้องการ เร่งด่วนและเพียงพอต่อการจัดหาวัคซีน

“งบฯกลางไม่ใช่ว่าผมจะให้ใคร หรือใช้อะไรก็ได้ หรือให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับบรรดาพรรคต่าง ๆ ผมยืนยันว่า ผมดูแลและให้ความสำคัญและความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ทุกภาค ทุกจังหวัด ทุกกลุ่มจังหวัด เพราะงบฯกลางมีพันธะกรณีกับหลายเรื่อง แต่ไม่ใช่ว่าผมจะสั่งอะไรก็ได้ แต่ต้องผ่านกลไก ตรวจสอบ คัดกรอง ต้องมีการจัดทำโครงการและวงเงินขึ้นมาทั้งสิ้น ต้องใช้งบฯอย่างประหยัดและคุ้มค่า ไม่ใช่ผมใช้เอง ตรวจสอบไม่ได้ ไม่ใช่ เพราะงบประมาณภาครัฐตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้อยู่แล้ว ไม่ใช่เงินของผม แต่ผมต้องบริหารให้ทั่วถึงและเป็นธรรม”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ท่านรองนายกรัฐมนตรี (อนุทิน) ก็คุยกับผมเสมอ ทุกวัน เพราะเรื่องสถานการณ์โควิด ปัญหาอยู่ตรงไหนผมก็แก้ให้ ผมไม่เคยทิ้ง ผมให้เกียรติท่านเสมอ ผมให้เกียรติรองนายกรัฐมนตรีทุกคน ให้เกียรติ ส.ส. ให้เกียรติฝ่ายค้าน ให้เกียรติฝ่ายรัฐบาล เพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรี ทำเพื่อประชาชน และท่านก็เป็นตัวแทนประชาชน ถ้าเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ผมทำได้หมด

“นายกรัฐมนตรียึดอำนาจมา ไม่ใช่นะครับ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรแล้ว และท่านรองนายกฯ ก็ยืนยันกับผมเสมอว่า ผมถามว่า จะเอาคืนไปหรือยัง ท่าน (อนุทิน) บอกว่ายังหรอกครับ สธ.ทำไม่ไหวครับ เพราะผมไม่สั่งใครเขาไม่ได้ ผมสั่งได้แต่ข้าราชการ สธ. ผมอยากจะคืนท่านไปตั้งนานแล้ว ท่านบอกว่าเอาไว้ก่อน นี่คือข้อเท็จจริง ผมไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น”

พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงทิ้งท้ายว่า ตนรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าผมจะใช้อำนาจตลอด อำนาจอยู่ไม่นานหรอกครับ หลายคนต้องการอำนาจ ตนไม่ต้องการอำนาจ ตนต้องการความร่วมมือ ต้องการความร่วมใจ ถ้าใครว่าบิดเบือนรัฐบาล ตนไม่เคยไปตอบโต้ท่าน แต่ถ้าท่านโจมตี เสียหาย ตนจำเป็น ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์”

“ผมไม่ได้หวงอำนาจเพื่อสร้างความรักความชอบของผม ผมขออย่างเดียวอย่าสร้างความเกลียดชังกันให้มากนัก วันนี้ประเทศไทยต้องการความเป็นหนึ่งเดียว อะไรที่เป็นปัญหา ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ เก็บไว้ก่อน ไม่ใช่เวลา”